วันที่ 20 ม.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากภัยแล้งคุกคามในหลายพื้นที่ กรมชลประทาน ได้ประกาศให้เกษตรกรงดการทำนาปรัง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายไม่มีน้ำ เนื่องจาก แม่น้ำสายหลัก สายรอง คูคลอง ต่างแห้งขอดเป็นวงกว้าง แต่ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ชาวนา ยังคงมีการทำนาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าแม่น้ำยมสายหลัก ที่ไหลมาจาก จ.แพร่ ผ่าน จ.สุโขทัย เข้าสู่ เขต อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จะแห้งขอด ยาวมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงไหลผ่านตัว อ.บางระกำ แม่น้ำยมแทบไม่มีน้ำเลย จะมีเพียงแอ่งน้ำที่ชาวบ้านขุดไว้เท่านั้น สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาในพื้นที่เป็นอย่างมาก แต่ชาวนาที่ทำนาริมแม่น้ำยม ต่างใช้วิธีขุดเจาะบ่อบาดาล กลางแม่น้ำยม ดึงน้ำใต้ดิน มาหล่อเลี้ยงนาข้าว กันจำนวนมาก
ล่าสุดนายวิรัตน์ พุทโกษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้ว่าจ้างชั่งขุดเจาะบ่อบาดาล จำรนวน 5,000 บาท มาขุดเจาะบ่อบาดาลกลางแม่น้ำยม เพื่อดึงน้ำไปหล่อเลี้ยงพื้นที่นา ที่ทำไว้ ป้องกันความเสียหายเหมือนกับชาวนารายอื่นๆ
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่ากรมประทาน จะประกาศให้ชาวนาหยุดการทำนา แต่ชาวนาที่บางระกำ ก็ยังคงทำนาต่อเนื่อง เพราะมีอาชีพหลักคือทำนา มาแต่อดีต ถ้าไม่ทำ ก็ไม่รู้ไปทำอะไร และปีนี้ถือว่าแล้งกว่าทุกปีที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำยมแห้งขอดยาวเหยียด บ่อบาดาล ที่เคยขุดไว้ริมคันนา ไม่สามารถดึงน้ำมาใช้ได้ เลยต้องใช้วิธีมาขุดน้ำกลางแม่น้ำยม เหมือนชาวนารายอื่นๆ ที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ราย และที่สำคัญปีนี้รัฐบาล ได้ช่วยเหลือในการลดราคาน้ำมันลง ทำให้ตนกล้าเสี่ยงในการเจาะบ่อบาดาล ดึงน้ำมาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ทำไว้ 40 ไร่ โดยในวันนี้ได้ขุดเจาะบ่อกลางแม้น้ำยม ถึง 18 เมตร ก็สามารถดึงน้ำมาใช้ได้
เช่นเดียวกับครอบครัวของ น.ส.ชลิตา ชูทอง อายุ 40 ปี ที่ได้ขุดเจาะบ่อบาดาลกลางแม่น้ำยม ดึงขึ้นไปหล่อเลี้ยงนาข้าว น.ส.ชลิตา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวตนเอง ได้ทำนากว่า 30 ไร่ ได้ขุดเจาะบ่อบาดาลกลางแม่น้ำยม ไว้ตั้งแต่ปี 2558 แต่พอหน้าน้ำ ก็จะใช้วิธีอุดปากบ่อไว้ จนถึงวันนี้ ได้นำเครื่องยนต์มาติดตั้ง เพื่อดึงน้ำไปไว้จุดบ่อพักน้ำที่อยู่ห่าง 100 เมตร จากนั้นจะดึงน้ำต่อจากบ่อพักไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งบ่อบาดาลตนเองนั้น สามารถให้พี่น้องที่ทำนาด้วยกันกว่า 100 ไร่ ไปใช้หล่อเลี้ยงนาข้าว ได้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ได้ประกาศให้ 3 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว ได้แก่ อ.วัดโบสถ์ อ.บางกระทุ่ม และ อ.วังทอง ส่วน อ.บางระกำ เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จับตาไว้ ยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย แต่แม่น้ำลำคลอง หลายสายได้แห้งขอดอย่างต่อเนื่องมาโดยทุกปี