ผู้ว่าฯ – ผบ.พล.ร4 จ่อรื้อ”ศาลบริเวณสี่แยกอินโดจีน

S__2678823วันที่ 14 มกราคม 2559 นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 นั่งเป็นประธานในงานแถลงข่าวสื่อมวลชนที่โรงแรมวังแก้ว จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีประเด็นข้อร้องเรียน และผู้ว่าฯสงสัยว่า พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจำลองขนาดใหญ่ ไปตั้งอยู่ในพลับพลาได้อย่างไร อีกทั้งมีการก่อสร้างด้วยปูนซีเมนต์ถาวร มีโครงเหล็กและไม้พื้น ริมถนนสาย 11 หรือบริเวณสี่แยกอินโดจีน อ.เมืองจ.พิษณุโลก  โดยไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของ หรือเป็นผู้นำ”องค์ดำ”มาประดิษฐานไว้ และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใด ทั้งนี้ ผู้ว่าฯเชิญหน่วยงาน แขวงการทางพิษณุโลก, วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก, สำนักพุทธศาสนาและอบจ.พิษณุโลก มาชี้แจงว่า ใครต้องรับผิดชอบดูแล  577014

ทั้งนี้ตัวแทนวัฒนธรรมพิษณุโลกระบุว่า การสร้างพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ จะต้องขออนุญาต จะต้องพิจารณาว่า รูปทรงเหมือนและสมพระเกียรติหรือไม่

ขณะที่รองปลัดอบจ.พิษณุโลก ระบุว่า  อบจ.พิษณุโลกขออนุญาตใช้พื้นที่บริเวณสี่แยกอินโดจีนจากแขวงการทางพิษณุโลกมานานแล้ว เคยคัดค้านและสั่งให้รื้อ เพราะไม่ได้อนุมัติ แต่กลับมีผู้มาสร้างในช่วงใช้พื้นที่สี่แยกอินโดจีนประกอบกิจกรรมท้องถิ่นช่วงหลายปีที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนี้อบจ.กำลังส่งคืนพื้นที่ให้กับแขวงการทาง และมีผู้มาประมูลอาคารสิ่งปลูกสร้างบริเวณนั้นแล้ว ซึ่งต้องรื้ออาคารออก รวมถึงศาลดังกล่าวด้วย577015

ขณะที่ตัวแทนแขวงการทางพิษณุโลก ชี้แจงว่า ได้มีหนังสือลงวันที่ 6 มกราคม 59 ให้อบจ.ซึ่งเป็นผู้ดูแลอยู่ และสั่งให้รื้อศาลหรือพลับพลาดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ

ล่าสุด นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ประสานให้ พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 เป็นเจ้าภาพหน่วยงานหลัก เตรียมรื้อศาลหรือพลับพลาที่ไม่สมพระเกียรติออกไปจากบริเวณสี่แยกอินโดจีน เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดทำหน้าที่ S__2678824

S__2678825

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เคยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ควรนำองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาตั้งอย่างไม่สมพระเกียรติ ที่แถวสี่แยกอินโดจีน ซึ่ง”พระองค์ดำ”ก็ได้ตั้งอยู่ ที่พระราชวังจันทน์อยู่แล้ว เมื่อ 16 ส.ค. 57 เคยมีใบปลิว เชิญชวนไปร่วมพิธี”เชิญเทพไท้เทวดาฟ้าดิน”มาจุติที่ สี่แยกอินโดจีน อ.เมือง พิษณุโลก ชักชวนให้ร่วมทำบุญ บริเวณพลับพลา แต่ก็เงียบเหงา ไม่มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธา หรือเห็นด้วยกับการตั้งศาลเถื่อน ที่หวังขายดอกไม้, ธูปเทียน แก่นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านไปผ่านมา และปัจจุบันนี้กลับพบว่า สถานที่ดังกล่าว ปล่อยร้าง

แสดงความคิดเห็น