เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก นางสังวาลย์ กรุดทอง อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 11 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มารดาของนายอมร กรุดทอง พร้อม ครอบครัว ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือตรวจสอบกรณีที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้ประกาศผลสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้น นายอมร กรุดทอง สอบได้ในลำดับที่ 1 แต่ต่อมาได้มีการประกาศผลสอบใหม่โดยให้อันดับที่ 2 เปลี่ยนเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งเหมือนไม่โปร่งใสอีกทั้งยังสร้างความเสียใจแก่ครอบครัว และตัวนายอมรอย่างมาก เพราะหลังจากที่มีการประกาศผล นายอมร ได้ตัดชุดข้าราชการพร้อมที่จะเข้ามอบตัวในวันที่ 9 ธันวาคม 2558 แต่ต่อมาวันที่ 8 ธันวาคม 2558 มีการเรียกนายอมรไปพบบอกว่าสอบได้ที่ 2 โดยให้เหตุผลว่านับคะแนนผิดจึงได้ประกาศผลใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 8 ธันวาคม2558 ช่วงบ่าย จากสอบได้ที่ 1 กลับมาเป็นที่ 2 ซึ่งรับเพียง 1 ตำแหน่งเท่านั้น ทั้งๆ ที่วันที่ 9 ธันวาคม 2558 จะเข้ามอบตัวแล้วแต่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลกได้เรื่องดังกล่าวไว้และจะได้ทำการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนและให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องเรียนต่อไป
ต่อมานายประพฤทธิ์ สุขใย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เปิดเผยว่า กรณีการประกาศผลการสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้ตรวจสอบภายหลัง พบว่า ประกาศผลการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2558 มีลำดับที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงบางกลุ่มวิชา สาเหตุเพราะคณะกรรมการประมวลผลมีความเข้าใจในเกณฑ์การจัดลำดับคลาดเคลื่อน เฉพาะรายที่มีผลคะแนนรวม ภาค ก ภาค ข และ ภาค ค เท่ากัน ทำให้ผลที่ประกาศในวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ไม่ตรงตามเกณฑ์การตัดสินตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ0206.6/ว16 ลงวันที่ 26 พ.ย.2557 อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ จึงตรวจสอบข้อมูลใหม่อีกครั้งและประกาศ แก้ไขให้ถูกต้อง
โดยข้อผิดหลาดที่ผ่านมา คณะกรรมการใช้เกณฑ์เดิมพิจารณา กรณีผลคะแนนผู้เข้าสอบเท่านั้น ใช้คะแนนภาค ก เป็นตัวตัดสิน แต่เมื่อทราบข้อผิดพลาดแล้ว จึงมาใช้เกณฑ์การตัดสินตามระเบียบดังนี้ กรณีผู้เข้าสอบมีคะแนนรวมภาค ก ภาค ข และ ภาค ค เท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาค ข มากกว่า เป็นผู้อยู่ในลำดับที่ดีกว่า หากยังได้คะแนน ภาค ข เท่ากันอีก ให้ผู้สอบได้คะแนนภาค ก มากกว่า เป็นผู้อยู่ในลำดับดีกว่า และหากยังได้คะแนน ภาค ก เท่ากันอีกให้จับวิธีจับสลาก แล้วประกาศผลการคัดเลือกใหม่ ในวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ซึ่งมีผลให้ในทุกวิชาเอกที่มีผู้สอบได้คะแนนเท่ากัน ถูกแก้ไขใหม่ จำนวน 4 กลุ่มวิชา คือวิชาเอกวิทยาศาสตร์ วิชาเอกการศึกษาปฐมวัย วิชาเอกเทคโนโลยีการศึกษา และวิชาเอกคอมพิวเตอร์ และในวันเดียวกันสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้ประสานให้ผู้อยู่ในลำดับที่มีผลกระทบมารับฟังคำชี้แจงและแจ้งสิทธิ์โต้แย้งได้ภายใน 30 วัน ซึ่งในขณะนี้ นายอมร กรุดทอง ผู้สอบได้ลำดับที่ 2 ในวิชาเอกคอมพิวเตอร์ ก็ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์มาแล้วและอยู่ระหว่างเสนอพิจารณาโดยนัดประชุมคณะกรรมอ.ก.ค.ศ. ในวันที่ 30 ธันวาคม นี้ ขณะที่ผู้ที่เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 นั้น ได้รับการบรรจุไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคณะกรรมการประมวลผลครั้งนี้แล้ว
นายประพฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ตนเข้าใจและรู้สึกเห็นใจถึงความตั้งใจของนายอมร แต่อยากให้เข้าใจ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เนื่องจากไม่ได้มีเจตนาให้เกิดความผิดพลาด เมื่อพบความผิดพลาดก็เร่งแก้ไขและไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าคณะกรรมการประมวลผลไม่ได้เข้าไปแก้ไขคะแนนของผู้เข้าสอบ เพียงแต่เข้าไปจัดเรียงลำดับใหม่ให้ถูกต้องตามเกณฑ์ อีกทั้งกระบวนการในการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุแต่งตั้งในครั้งนี้ ได้ดำเนินการอย่างรัดกุม มีความบริสุทธิ์ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ซึ่งผู้เสียสิทธิ์ทุกท่านสามารถดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบคะแนนได้ตลอดเวลา และหากมีข้อสงสัยประการใดให้ประสานกับตนเองได้โดยตรงที่ กลุ่มบริหารงานบุคคล สพป.พิษณุโลก เขต 1 ได้ดังกล่าว
////////