วันที่ 21 ธันวาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ปลูกนาข้าวในเขตต.ท่านางงาม ต.ชุมแสงสงคราม และอีกหลายตำบลในเขตอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ยังคงมีเกษตรกรชาวนาลงมือทำนากันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำปีนี้ที่ค่อนข้างวิกฤติ ไม่เพียงพอต่อการส่งน้ำเพื่อการเกษตร ขณะที่สภาพคูคลองธรรมชาติต่าง ๆ ที่ไหลผ่านเขตอ.พรหมพิราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะคลองเมม คลองบางแก้ว ขณะนี้สภาพน้ำเริ่มแห้งขอดแล้ว จากการที่สูบน้ำขึ้นไปทำนา และจะไม่มีน้ำส่งมาหล่อเลี้ยงเพิ่มเติมอีกต่อไป โดยที่คลองบางแก้ว บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลกนั้น ขณะพนี้น้ำที่เคยเก็บสำรองไว้จากช่วงฆดูฝนที่ผ่านมาเริ่มจะหมดแล้ว เหลือเพียงน้ำที่คงขังอยู่เป็นแอ่ง ๆ เท่านั้น
ที่นาข้าวพื้นที่ม.5 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขณะนี้เกษตรกรส่วนหนึ่งเพิ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าว และอีกจำนวนมากได้เกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว พร้อมลงมือหว่านข้าวทำนารอบต่อไปทันที โดยต่างใช้น้ำจากบ่อบาดาลในแปลงนาของตนเอง ความลึกระดับ 15-30 เมตร สูบน้ำขึ้นมาทำนา และมีรายหนึ่งได้ว่าจ้างมาขุดเจาะบ่อบาดาล ขนาดความลึก 60 เมตร ใช้งบประมาณ 100,000 บาท เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการทำนา
เกษตรกรชาวนาจ.พิษณุโลก บอกว่า รัฐบาลประชาสัมพันธ์ให้งดทำนาเนื่องจากน้ำมีไม่เพียงพอ แต่พวกตนทำนาเป็นอาชีพหลัก มันหยุดไม่ได้ ดอกเบี้ยมันไม่หยุดตาม จึงต้องเสี่ยงทำนาปรังในรอบนี้ โดยใช้น้ำจากบ่อบาดาลเป็นหลัก เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ต่ำ ทำนาได้เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น หากปีใดน้ำจากแม่น้ำยมมีมาก ก็จะไหลท่วมขังพื้นที่นี้นานร่วม 2 -3 เดือน ดังนั้นจึงมีระยะเวลาทำนาในช่วงหน้าแล้งเท่านั้น
