วันที่ 16 ธันวาคม 2558 ประชาชนผู้เสียหายที่เล่น”แชร์กระเป๋าตุง By แม่ตาล”หลายคน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ว่า ถูกโกงเงินค่าแชร์ รวมมูลค่าความเสียหายร่วมๆ 20 ล้านบาท
ล่าสุดผู้เสียหายกำลังให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ระบุว่า ได้รับการชักชวนให้เล่นแชร์ จากท้าวแชร์รายหนึ่งทาง เฟซบุ๊คใช้ชื่อ ว่า Boonyarat Poonnawit ที่ตั้งกลุ่ม” กระเป๋าตุง By แม่ตาล” ซึ่งเป็นกลุ่มลับ ที่ดึงคนสนใจลงเล่นแชร์ มีการตั้งวงแชร์ 3 ลักษณะ เป็นวงดับเบิ้ลพิเศษ วงพิเศษ และวงออมกินดอก มีสมาชิกอยู่ 195 คน
นางสาวพลอยปภัส ทัพย์สุริยเดช อายุ 33 ปี ชาวอ เมือง จ.พิษณุโลก หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเล่นแชร์ทางเฟซบุ๊ค ครั้งแรกมองว่า เป็นออมเงิน แถมได้ผลตอบแทนสูง อีกทั้งตรวจสอบก็พบว่า มีการโอนเงินจริง ได้รับเงินจริง ตามหลักฐานทางออนไลน์ คิดว่า น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจลงเงินเป็นงวด ๆ ละ 20,000 บาท เคยได้รับดอกเบี้ยจากท้าวแชร์รายนี้ 2 ครั้ง ๆ ละ 2,000 บาท ล่าสุด( 3 ธ.ค.58) จึงลงทุนเพิ่มเป็น 100,000 บาท ผ่านไป 1 สัปดาห์ กลับไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลง ทวงถามไปก็ไม่ได้คำตอบ ต่อมามีลูกแชร์รายอื่น ๆ ประสพชะตากรรมเดียวด้วย จึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ลูกแชร์หลายคนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้รับเงินตามที่ตกลง สูญเงินไปรายละไม่ต่ำกว่า 2 – 6 หมื่น หลายรายหลักแสนบาท รวมมูลค่าร่วม 20 ล้านบาท เพราะเชื่อใจ ท้าวแชร์รายนี้เป็นภรรยาของดาบตำรวจจริง ช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา คนที่ลงทุนเล่นแชร์ก่อน ได้รับผลตอบแทนดอกเบี้ยคุ้มค่า แต่คนที่เพิ่งเล่นได้รับเงินแค่ 1-2 งวดก็ล้มแล้ว จึงต้องมาร้องขอเงินคืน และเอาผิดกับท้าวแชร์รายนี้ให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ.สามารถ จูเทศ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ มีผู้เสียหายจากการถูกโกงค่าแชร์ เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเกือบ 40 ราย และคาดว่าจะมีเพิ่มเติมมาอีกเรื่อย ๆ รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 22 ล้านบาท ซึ่งในคดีดังกล่าว นับเป็นคดีอาญา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ส่วนที่วิตกว่า ท้าวแชร์มีความเกี่ยวข้องกับ ดาบตำรวจรายหนึ่ง ยืนยันว่า เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร หากเป็นตำรวจจริง จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องมีโทษทางวินัยอีกด้วย อย่างไรก็ตามให้ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม และเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมิจฉาชีพ