ปราชญ์ชาวบ้านตำบลจอมทอง พลิกผืนนา เป็นศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริ พร้อมกับปลูกหมามุ่ย เพิ่มรายได้งามให้ครอบครัววันที่10 ธ.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกษม โตมา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 1 บ้านท่าตะเคียน ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านเกษตรต้นแบบ และได้จัดตั้งศูนย์เกษตรพอเพียง ปรับพื้นที่จำนวนกว่า 20 ไร่ เป็นไร่นาสวนผสม ตามแนวพระราชดำริ เกษตรพอเพียง ซึ่งในพื้นที่ 20 ไร่นั้น ส่วนหนึ่งได้นำพื้นที่ 1 ไร่ หันไปปลูกต้นหมามุ่ย พันธุ์อินเดียวและพันธุ์ไทย ขายสร้างรายได้งามในขณะนี้คุณลุงเกษม เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เดิมทีนั้นได้ทำนา ทั้ง 20 ไร่ แต่กลับผลผลิตไม่ดี และราคาข้าวก็ถูก จึงได้ปรับพื้นที่นาเป็นไร่นาสวนผสม ขุดบ่อปลา ปลูกพืชผัก สลับผลไม้ยืน ตามแนวพระราชดำริเกษตรพอเพียง พร้อมทั้งได้นำพันธุ์หมามุ่ย มาทดลองปลูก กลับได้ผลผลิตที่ดี โดยในขณะนี้หมามุ่ยพันธุ์อินเดีย มีราคากิโลกรัมละ 300 บาท ส่วนหมามุ่ยพันธุ์ไทย มีราคากิโลกรัมละ 800 -1,000 บาททีเดียว ส่วนในการเพาะปลูกนั้น ก็ไม่ยาก เพียงการปลูกก็เหมือนการปลูกถั่วทั่วไปคือปลูกแบบหยอดเป็นหลุม หลุมละ 2-3 เมล็ด ไม่มีระยะปลูกที่แน่นอน ปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติเลื้อยพันค้างที่ทำไว้ ไม่มีการรดน้ำ ใส่ปุ๋ยใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับระยะการเก็บเกี่ยวนั้นหมามุ่ยพันธุ์อินเดีย ในเวลาเพียง 3 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ส่วนพันธุ์ไทย ต้องเวลากว่า 6 เดือนทีเดียว ถึงจะเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งฝักแก่จัดซึ่งจะมีสีเหลืองทองถึงเหลืองแก่ มีขนค่อนข้างยาว วิธีเก็บเกี่ยวคุณลุงเกษม บอกว่าใช้ไม้คีบถ่านเป็นเหล็ก ใช้ในการจับหมามุ่ย แล้วก็ใช้กรรไกรตัดคั่วออกมา ข้อควรระวังในการตัดนั้นควรอยู่เหนือลม ป้องกันขนหมามุ่ยปลิวใส่ จากนั้นก็นำมากแดดกับพื้นดินและใช้ผ้ามู่รี่คุมไว้อีกครั้ง ทิ้งไว้ 1-2 วัน เมล็ดในฝักหมามุ่ย ก็จะหลุดออกมา เก็บไปคั่วกับทรายในกระทะ แล้วสามารถนำไปขายได้
สำหรับสรรพคุณหมามุ่ยมีจำนวนมาก ตั้งแต่ ราก ใบ ฝัก เม็ด เช่น ใช้รากแก้คัน ใช้ถอนพิษ ล้างพิษ เม็ดใช้ทั้งกิน เม็ดคั่ว นึ่ง และบด เป็นผง เพื่อบำรุงกำลัง เพิ่มน้ำเชื้อ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศโดยเฉพาะใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ไม่เหนื่อยง่าย ช่วยทำร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพิ่มความกระฉับกระเฉง ช่วยทำให้นอนหลับสบาย จิตใจเบิกบานแจ่มใส ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำอสุจิ และช่วยปรับคุณภาพของน้ำเชื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ (เพิ่มโอกาสการมีลูกได้มากขึ้น) และช่วยทำให้คู่รักมีความสุขและช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดีมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไป สนใจและต้องการไปศึกษาแปลงไร่นาสวนผสม ของคุณลุงเกษม ก็สามารถไปชมกันเป็นประจำทุกวัน ที่บ้านท่าตะเคียน ต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลจอมทอง ก็ได้ส่งเสริมให้ศูนย์เกษตรพอเพียงของคุณลุงเกษม เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอีกด้วย
///////////