ตรวจแอลกอฮอล์พระขับรถชนนิสิตก่อนสั่งฟ้องขับรถโดยประมาท

FB_IMG_1449610148531วันที่ 10 ธค.2558 ความคืบหน้าเหตุพระขับรถเก๋งชน 2 นิสิต หนุ่มสาวมหาวิทยาลัยนเรศวรเสียชีวิต
จากกรณี พระศักดา กลุณวัฒโณ พระลูกวัดยางเอน อ.เมืองพิษณุโลก ได้ขับรถไปทำธุระที่วัดกำแพงมณี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยพระสันติ สุจินโณ ลูกพระวัดวัดนิมิตธรรมาราม และนายสุรัชช์ ขันตี ลูกศิษย์ ระหว่างทางเมื่อขับมาถึงบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ใกล้เคียมหาวิทยาลัยนเรศวร ม.8 บ้านยางโทน ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เกิดอุบัติเหตุชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ ของ 2 นิสิต จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.ณัฐชนา ทองหม่อม อายุ 20 ปี นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.6 ต.นาแซง อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และ นายสุริยันต์ จันทร์โต อายุ 19 ปี นิสิตชั้นปีที่2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อยู่บ้านเลขที่ 54/5 ม.3 ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนวันที่ 8 ธค.ที่ผ่านมาFB_IMG_1449610177650
ล่าสุด ร.ต.อ.มานพ แสงอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำคู้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำ พระศักดา กุลณวัฒโณ ผู้ขับรถยนต์ที่ประสบเหตุ ให้การว่า ได้ยืมรถยนต์ของพ่อเพื่อนขับออกจากวัดยางเอน เพื่อจะไปทำธุระที่วัดกำแพงมณี แต่ได้มาเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าวเสียก่อน ส่วนเสื้อใน ถุงยาง วิกผม ที่พบเจอในรถนั้นเป็นของนายสุรัชช์ ขันตี ลูกศิษย์ ไม่ใช่ของพระทั้ง 2 รูป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ของพระศักดา ว่ามีอาการมึนเมาขณะขับรถหรือไม่ ต้องรอผลตรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนเรื่องทางคดีความต้องรอให้พระศักดา อาการดีขึ้นเสียก่อน ถ้าพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายFB_IMG_1449610236418
ด้าน นายบุญเรือง แตงก่อ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จว.พิษณุโลก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด เนื่องจากวันเกิดเหตุได้เดินทางไปประชุมราชการที่ต่างจังหวัด แต่ถ้าหากผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแล้ว พบว่าพระสงฆ์รูปนี้ขับรถยนต์จริงก็ถือว่าผิดพระธรรมวินัย เพราะกฎระเบียบวินัยที่ทางมหาเถรสมาคมได้บัญญัติไว้ห้ามพระภิกษุขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ถือว่าผิดกิจของสงฆ์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ส่วนในเรื่องคดีความทางอาญาก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนบทลงโทษทางวินัยจะขึ้นอยู่ที่คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองของพระสงฆ์รูปนั้นว่าสังกัดวัดไหน ให้เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ร่วมตรวจสอบดูแลพระที่ทำตามความผิดฝืนวินัยตรงนี้ หากผิดจริงก็ควรลาสิกขาไปเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่มีหน้าที่เข้าไปลงโทษ แต่บุคคลส่วนใหญ่ที่บวชเข้ามาเป็นพระก็ล้วนมีความแตกต่างกัน ก็ต้องมีพระที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยบ้าง
สุดท้ายอยากวิงวอนขอให้สังคมอย่าเพิ่งมองพระพุทธศาสนาในแง่ที่ไม่ดี หรือซ้ำเติมพระพุทธศาสนา การกระทำความผิดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน ไม่อยากให้คนไทยโจมตีทำลายพระพุทธศาสนากันเอง เพราะเป็นผลเสียอย่างยิ่ง ทุกคนควรจะช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อความมั่นคงของศาสนาพุทธของเรา.
…………………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น