ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ สิงห์ภูงา นิสิตปริญญาเอก ได้ร่วมทำการศึกษาวิจัยการผลิตเห็ดถั่งเฉ้าสีทอง ที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงทั้งดอกและเส้นใยเห็ด โดย เห็ดถั่งเฉ้าสีทอง เป็นเห็ดตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเฉ้าทิเบต เป็นเชื้อรากินแมลง เป็นสมุนไพรจีนมีมานานหลายพันปี ที่หลายคนเชื่อว่าคุณสมบัติเป็นยาโด๊ป จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ100,000 บาทผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลกกล่าวว่า เห็ดถั่งเฉ้าสีทอง เป็นเห็ดที่พบอยู่ทั่วไปในระดับที่มีอุณหภูมิระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส เป็นเห็ดที่มีส่วนประกอบของสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่และยาหลายชนิดที่สูงกว่าเห็ดถั่งเฉ้าแท้ๆ คนไทย สามารถการเพาะเห็ดเถ่าชั่งได้เอง เรียกว่า “เห็ดถั่งเฉ้าสีทอง”
เห็ดถั่งเฉ้าสีทอง ก็เหมือนเห็ดถั่งเฉ้าแท้ แต่ไม่ได้เกิดในระดับสูงกว่าน้ำทะเล เพาะได้ง่ายกว่า โตเร็วกว่า มีสาร คอร์ไดซิปิน และสารอะดีโนซิน สูงกว่า จึงทำให้มีผู้เริ่มศึกษาและหันมาเพาะเห็ดถั่งเฉ้าสีทอง กันหลายราย เพราะสรรพคุณเด่นของเห็ดถั่งเฉ้าสีทอง เห็ดถั่งเช่าสีทองเป็นยาร้อน (ธาตุร้อน) เช่นเดียวกับถั่งเฉ้าจากทิเบต สารตัวนี้มีความสามารถช่วยดึงเอาออกซิเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นั่นก็หมายถึงเวลาเราหายใจ มีอาการเหนื่อยล้า หรือต้องขึ้นที่สูง มันจะช่วยให้เราไม่เหนื่อยไม่หอบ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น ร่างกายอยู่ในสภาพอ่อนแอ สารคอร์ไดซิปิน(Cordycepin) มันก็จะช่วยดูดออกซิเจนมาใช้ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนสารอะดีโนซิน (Adenosine)เป็นสารประเภทนิวคลีโอไซด์ ใช้เป็นยารักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยไปชะลอคลื่นไฟฟ้าที่ถูกส่งไปที่หัวใจส่งผลให้หัวใจเต้นช้าลงและกลับมาสู่ภาวะการณ์เต้นที่เป็นปกติ
นอกจากนี้ยังพบสารต่างๆมากมาย ที่เป็นภูมิคุ้มกันโรค ช่วยให้หายจากอาการเป็นไข้หวัด ภูมิแพ้ และเชื่อว่าเป็นยาโด๊ปด้วย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยกำลังขยายผลกับหนูทดลอง ว่าการบริโภคถั่งเฉ้านั้น สามารถกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ได้จริงหรือไม่ ซึ่งห้องทดลองดังกล่าวกำลังดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว
ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท กล่าวอีกว่า จากประโยชน์มากกมายจึงได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพราะให้มีข้อแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป คือ 1.ศึกษาแตกต่างของสายพันธุ์ โดยตรวจสอบที่ DNA อันที่ 2 คือ สภาพการณ์เพาะเลี้ยง ทำอย่างไรให้เกิดความแตกต่างจากผู้อื่น คือทำอย่างไรให้สารคอร์ไดซิปิน และสารอะดีโนซิน สูงกว่าคนอื่น โดยจะต้องมีสูตรอาหารในการเพาะเลี้ยงที่แตกต่าง เพื่อให้เติบโตเร็ว 3. การทดสอบในหนู โดยให้หนูกินเข้าไปในระยะ 1 เดือน 2 เดือน หรือ 1 ปี แล้วเกิดปฏิกิริยาร่างกายอย่างไร และ 4. คือ การทดสอบกับหนูแก่ กินถั่งเฉ้าสีทองไปแล้ว จะมีอาการอย่างไรกับหนูเด็กสาว เปรียบเทียบกับหนูแก่ทั่วไปที่ไม่กินถั่งเฉ้าสีทอง มีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง
นายณัฐพงษ์ สิงห์ภูงา นิสิตปริญญาเอก กล่าวว่า เบื้องต้นสิ่งที่เราประสบความสำเร็จคือการขยายผลถั่งเฉ้าสีทองได้อย่างรวดเร็ว โตเร็ว ในอาหาร PDA ซึ่งมีส่วนประกอบของ น้ำกลั่น มันฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน กลูโกส ยีสต์สกัด เปปโตน วิตมินB1 วุ้นบริสุทธิ์ จากนั้นจะนำเชื้อจากดอกเห็ด ไปทดสอบในห้องแลป นานประมาณ 7-10 วัน ประมาณ 60 วัน ก็สามารถกับดอกได้ สามารถนำไปรับประทานแบบสดๆ หรือ ตากแห้งชงเป็นชาดื่มได้ทุกวัน
จากประโยชน์ของถั่งเฉ้าสีทอง นั้น ตนเองได้นำมาทดลองกับตนเองและครอบครัว คุณแม่เป็นภาวะความดันสูง ขับถ่ายปัสสาวะลำบาก เนื่องจากโรคไต หลังจากรับประทานถั่งเฉ้าสีทองไปแล้วร่างกายก็สามารถปัสสาวะง่ายขึ้น น้ำตาลในร่างกายก็คงที่ นอกจากนี้ยังทดสอบกับตนเอง เนื่องจากตนเองมีบุตรยาก จึงลองกินถั่งเฉ้าสีทอง ด้วยการทำไปอบเป็นชาชง รับประทาน 1-2 เดือน ก็ติดบุตร ได้ในที่สุด
///////////////////