“ดอกปีบ”เบ่งบานส่งกลิ่นหอมทั่วม.ราชภัฎพิบูลสงคราม

7 วันที่ 2 พ.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เริ่มมีอากาศเย็นลงกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส ส่งผลทำให้ช่วงนี้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ที่ปลูกต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ “ต้นปีบ” หรือ “ต้นกาสะลอง” ตั้งตระหง่านสูงเด่นเอาไว้ที่ริมถนนทางเข้ามหาวิทยาลัย และบริเวณโดยรอบ จำนวนกว่า 100 ต้น 17เริ่มเบ่งบานพากันออกดอกชูช่อสีขาวจนเต็มต้น หลังจากหมดฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งระหว่างที่นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไป สัญจรผ่านไปมาตามถนนเส้นดังกล่าว ยังได้ดมกลิ่นหอมสดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกปีบ นอกจากนี้ดอกปีบที่ถูกพัดปลิวตามแรงลม และร่วงหล่นลงมาที่พื้นถนน พื้นสนามหญ้า ทำให้ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยดอกปีบสีขาวโพลนสวยงามสะดุดตา บางรายถึงกับต้องจอดรถแวะถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก สร้างสีสันให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นอย่างมากอีกด้วย2

12 สำหรับ “ต้นปีบ” หรือ “ต้นกาสะลอง” จะเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามแล้ว ยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดพิษณุโลก โดยต้นปีบสามารถออกดอกได้ปีละ 2 ครั้ง ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน และช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ดอกปีบมีสีขาวนวลออกรวมเป็นช่อขนาดใหญ่ เมื่อดอกบานตอนกลางคืนแล้ว มักจะร่วงหล่นลงพื้นดินในตอนเช้า ทำให้พื้นดินใต้ต้นปีบมีดอกปีบสีขาวปกคลุมอยู่โดยรอบ ดอกปีบเริ่มบานและส่งกลิ่นหอม แต่จะส่งกลิ่นหอมมากที่สุดในตลอดกลางคืน ต้นปีบเป็นต้นไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูก เพราะคนโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นปีปไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มาก เพราะ “ปีบ” คือ ภาชนะที่ใช้ในการบรรจุของ ดังนั้นคนไทยโบราณเรียกภาชนะใส่ของที่มีค่าว่า “ปีบเงิน” “ปีบทอง” นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าสามารถทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะปีบมีลักษณะแข็งและโปร่ง เวลาเคาะหรือตีจะเกิดเสียงดังไปไกล ที่สำคัญดอกปีบยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงกำลัง รักษาไซนัสอักเสบ เป็นต้น15

หากท่านใดที่สนใจอยากชมความงามของ “ดอกปีบ” หรือ “ดอกกาสะลอง” สามารถเดินทางไปเที่ยวชมได้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ได้เป็นประจำทุกวัน9

6

……………………………………………………………………………………………………….

แสดงความคิดเห็น