วันที่ 25 ตุลาคม 2558 ที่จุดขนถ่ายขยะ ตลาดร่วมใจ ตลาดเทศบาล 6 เทศบาลนครพิษณุโลก ในทุก ๆ เช่าจะพบเห็นคุณลุงสมพงษ์ หมู่ซัง วัย 69 ปี ชาวบ้านต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก อดีตพนักงานขับรถสำนักงานควบคุมโรคพิษณุโลก ขับรถยนต์กระยะคันเก่งมาจอดเทียบท่า ณ จุดทิ้งขยะดังกล่าว เพื่อขนเศษผักชนิดต่าง ๆ ที่จนท.รักษาความสะอาดได้เก็บมาจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดร่วมใจอาคาร 1 อาคาร 2 มากองรวมกันทุกวัน เพื่อขอรถขยะมานำไปจำกัดที่สถานีบำบัดขยะบึงกอก อ.บางระกำ
แต่สำหรับลุงสมพงษ์ แล้ว กองผักคะน้า กระหล่ำปลี ผักบุ้ง ที่ถูกทิ้งวันละหลายร้อยกิโลกรัม เป็นผักที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเด็ดทิ้ง เนื่องจากเป็นก้านแข็ง และอยู่ในสภาพเหี่ยว กลับเป็นวัตถุดิบชั้นดี ที่ลุงสมพงษ์มาเก็บไปเลี้ยงปลากินพืช หรือ ปลามังสวิรัติ อาทิ ปลาทับทิม ปลาแรด ปลาตะเพียน มาขนไปเลี้ยงปลาได้ทุกวัน โดยไม่ต้องซื้อหัวอาหารเลี้ยงเหมือนบ่อเลี้ยงปลาอื่น ๆ โดยจะสลับมาขนผักที่ตลาดร่วมใจวันเว้นวัน และนำไปโยนลงบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ที่บ้านพัก บ้านป่าไผ่ ม.2 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก
ลุงสมพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากเกษียณจากพนักงานขับรถแล้ว ก็ว่างงาน พอดีบริเวณบ้านพักที่ต.วัดจันทร์มีพื้นที่ว่าง เป็นแนวคลองชลประทาน แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ตนจึงทำเป็นสระเลี้ยงปลาจำนวน 2 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ไปซื้อลูกพันธุ์ปลาแรด ปลาทับทิม มาปล่อย และได้มาเก็บเศษผักที่เหลือทิ้ง ไปเลี้ยงปลาได้ทุกวัน โดยจะมาเก็บวันเว้นวัน โยนลงไปในบ่อ ปลาพวกนี้เป็นปลากินพืช หรือ ปลามังสวิรัติ ก็จะคอยตอดกินผักที่เก็บมา ไม่ต้องลงทุนเรื่องหัวอาหาร เสียแค่เวลาและค่าน้ำมันรถเท่านั้น ใช้ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 1 ปี ปลาก็จะโตได้ตัวละประมาณ 1-2 กิโลกรัม ตนก็จะใช้อวนลากนำปลาไปขายตามตลาดสดต่าง ๆ ในเขตเทศบาล และตลาดชลประทานที่ต.ท่าทอง
นอกจากบ่อเลี้ยงปลาที่ใช้เศษผักจากตลาดมาเลี้ยงแล้ว ลุงสมพงษ์ยังปลูกพืชอีกหลากชนิด ในพื้นที่ที่อยู่ด้านข้าง เรียกว่าใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ทั้งกล้วยหอม ขิง ข่า กระชาย กระเพรา สามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอดทั้งปีด้วย