เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ต.ค. 2558 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามกรณีโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีนายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล ปลัดจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมชี้แจง พร้อมด้วย นายอนันต์ พรหมดนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยโครงการส่งน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนพร้อมด้วย และตัวแทนจากป้องกันจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนชาวบ้าน ม.11 ต.ดอนทอง ม.1 ม.3 ม.6 ม.7 ม.8 และ ม.9 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ทั้งนี้ตามที่ชาวบ้านชาวบ้าน ต.บ้านป่า ยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านป่า โดยร้องขอให้นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และพล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยุติการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ของบริษัท eco waste management จำกัด ในพื้นที่ ต.บ้านป่า จำนวน 64 ไร่ ซึ่งทางบริษัทได้ชี้แจงกับชาวบ้านว่าโรงงานจะนำขยะแปรรูป ที่รับมาจากโรงคัดแยกขยะที่จะดำเนินการก่อสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มาเป็นเชื้อเพลิงด้วยการเผาเพื่อนำความร้อนไปต้มน้ำและให้ไอน้ำไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากำลังผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ โดยจะใช้ขยะแปรรูปวันละ 500 ตันต่อวัน ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านในพื้นที่เกรงว่าปริมาณขยะเปียก ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลกมีประมาณ 600 ตันต่อวัน จะถูกผลักดันมาทิ้งในพื้นที่ตำบลบ้านป่าและก่อให้เกิดมลพิษ เกิดผลกระทบโดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมจะเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ตามที่ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ให้เข้ามาทำการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก เนื่องจากชาวบ้านยังสงสัยการขัดแย้งข้อกฎหมายในหลายจุด โดยเฉพาะพื้นที่ จำนวน 64 ไร่ ที่จะทำการก่อสร้างโรงงานเป็นพื้นที่สีเขียว ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนและเกษตรกรรม ไม่เหมาะในการก่อสร้างโรงงาน และที่สำคัญตนได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยโครงการส่งน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ว่าพื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างโรงงานอยู่ในเขตพื้นที่ชลประทานของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนจริง ซึ่งหากเกิดการก่อสร้างโรงงานดังกล่าวจะมีน้ำคลอง น้ำสาขา จากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนล้อมรอบถึง 3 ด้าน และที่สำคัญยังติดข้อกฎหมายที่อยู่ในระหว่างการประกาศเตรียมการจัดรูปที่ดินอีกด้วย สำหรับในวันนี้ตนในฐานะผู้ตรวจการแผ่นดินได้มาฟังคำชี้แจงจากชาวบ้าน และหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะมีการจัดประชุมชี้แจงทั้งหน่วยงานราชการ และ บริษัท eco waste management จำกัด พร้อมด้วยชาวบ้านผู้เกี่ยวข้องที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพื่อหาข้อสรุปว่าจะเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะต่อ หรือต้องยุติโครงการก่อสร้างในเร็ววันนี้.
……………………………………………………………………………………………………………….