เวลา 07.50 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2558 ร.ต.ท.ไพโรจน์ คล้ายสุวรรณ์ ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนร้ายงัดตู้บริจาคและขโมยเงินในตู้ไป ภายในศาลหลักเมืองพิษณุโลก ที่อยู่ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมผู้บังคับบัญชาร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุประกอบด้วยพ.ต.อ.นิคม สภาพพร รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก นายภาสกรณ์ บุญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก และพ.ต.อ.สมนึก มากมี ผกก.สภ.พรหมพิราม รักษาราชการแทนผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก
ที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ใช้ของแข็งงัดกุญแจสายยู ประตูด้านนอกของศาลหลักเมืองพิษณุโลก และพบตู้บริจาคที่อยู่ภายในศาลหลักเมืองพิษณุโลก กุญแจสายยูที่ปิดตู้ ถูกตัด พบร่องรอยการรื้อค้นของภายในกระจัดกระจาย และเงินบริจาคที่ประชาชนหยอดในตู้หายไปเกือบหมด เหลือเงินเหรียญในตู้เพียงเล็กน้อย คาดว่าคนร้ายได้เงินในตู้ไปประมาณ 700-1,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่า คนร้าย ยังงัดป้อมจำหน่ายวัตถุบูชาด้านหน้าประตูทางเข้าศาลหลักเมือง และขโมยเงินจากการจำหน่ายวัตถุบูชาไปจำนวน 300 บาท
สอบถามนายอนุสรณ์ ปราศรัย อายุ 57 ปี พนักงานดูแลศาลหลักเมืองทราบว่า ช่วงประมาณ 06.40 น. ขณะที่เดินทางมาเพื่อเตรียมเปิดศาลหลักเมืองและทำความสะอาด ก็พบร่องรอยคนร้ายงัดประตูป้อมจำหน่ายวัตถุบูชาด้านหน้าศาลหลักเมือง จากนั้นสำรวจพบว่าคนร้ายยังก่อเหตุงัดประตูหน้าศาลหลักเมืองด้านบนอีกและขโมยเงินในตู้บริจาคไป ที่ปกติแล้ว จะมีการเปิดตู้และมีอส.ของจ.พิษณุโลกมาเก็บเงินไปทุก ๆ 7 วัน ที่เฉลี่ยแล้วจะมีเงินในตู้สัปดาห์ละ 700-1,000 บาท และในทุกวัน จะมาปิดประตูศาลหลักเมือง โดยลงกลอนประตูด้านในทั้ง 3 ด้าน และล็อกกุญแจสายยูประตูด้านหน้า
นายภาสกรณ์ บุญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาลงมือในช่วงกลางดึก บริเวณศาลหลักเมืองนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์อยู่ มีอส.อยู่ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก และไม่มีกล้องวงจรปิดบริเวณนี้ หลังจากนี้จะเพิ่มกำลังอส.มารักษาความปลอดภัยบริเวณศาลหลักเมือง และจะเก็บเงินในตู้บริจาคออกไปเก็บรักษาทุกวัน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว ได้นำตู้บริจาคเหล็ก ไปตรวจลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป