เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 24 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขต ม.2 บ้านน้ำเลา ม.8 บ้านป่าบง ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีบ้านเรือนประชาชน ที่ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านได้รับความเสียหายอีกจำนวน 40 หลังคาเรือน ความแรงของน้ำที่เชี่ยวกราก ชาวบ้านต้องช่วยกันอพยพ เบื้องต้นนายเกรียงวิชญ์ เตชวิทยไวทิน นายอำเภอนครไทย ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 9 ได้นำเรือท้องแบน และอุปกรณ์แสงสว่าง เข้าไปช่วยเหลือประชาชน
โดยน้ำที่หลากเข้าท่วมบ้านประชาชนในจุดแรกคือหมู่ 2 บ้านน้ำเลา และหมู่ 8บ้านป่าบง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เชื่อมต่อไปหมู่ที่ 1บ้านบ่อโพธิ์ น้ำได้ไหลหลากลงคลองบ้านน้ำเฟี้ยเอ่อล้นแรง สูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้น้ำเอ่อล้นทะลักล้นคลองเอาโคลนไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนกว่า 10 หลังคาเรือน เส้นทางขาดตรงสะพานข้ามคลองน้ำเฟี๊ย ทางเจ้าหน้าที่ต้องรอน้ำลด นานกว่า 3 ชม. แล้วใช้รถไถเล็กดันโคลนที่ไหลมากับน้ำ หนากว่าครึ่งเข่า ออกไปเพื่อให้รถที่จะสัญจรไประหว่าง อ.นครไทย- อ.ด่านซ้าย ได้
สอบถามนางดอกไม้ ขุมขำ อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 8 บ้านป่าบง เล่าให้ฟังว่า ช่วงนั้นกำลังดูทีวีกัน จากนั้นก็ได้มีฝนตกมาอย่างแรง ตอนแรกถึงว่าจะมีแต่ฝน แต่ที่ไหนได้มีน้ำป่าสูงกว่า 1 เมตร ไหลมาท่วมบ้านของตนเองทำให้ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย นอกจากนี้หมูที่เลี้ยงไว้ในเล้าหลังบ้าน ยังหลุดไปกับน้ำป่าอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถของนายจรัล ปัญญาประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ที่ได้กำลังกลับจากบ้านบ่อโพธิ์ เนื่องจากไปดูสถานการณ์น้ำป่าแล้ว จะขับรถกลับมาบอกลูกบ้านของตนเอง ขณะนั้นได้เกิดน้ำป่าไหลมาอย่างหนัก จนทำให้รถไหลไปติดข้างทาง นายจรัล ต้องทุบกระจกรถหนีออกไปได้ในที่สุด
ขณะที่จุดใหญ่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากคือหมู่ ที่ 1บ้านบ่อโพธิ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือล่าช้าเนื่องจากถูกน้ำป่าตัดสะพานน้ำเฟี๊ย ขาด แต่เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านนี้ก็พบว่ากระแสน้ำที่หลากอย่างเชี่ยวกราก สูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนกว่า 40 หลังคาเรือน โรงเรียนบ้านบ่อโพธิ์ อีก 1 แห่ง ต้นไม้ใหญ่ล้นระเนระนาดไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านหลายคนต้องอพยพขึ้นไปอยู่ที่สูง หรือบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน และรอให้น้ำยุบลง ถึงจะสามารถมาดูข้าวของที่เสียหายได้ บางคนสิ่งของเครื่องใช้จมไปกับโคลน
นางมัณฑนา จันทร์ตัน ชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านบ่อโพธิ์ เล่าว่า น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้รุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ตนเองเกิดมาอายุได้ 40 ปี ก็ไม่เคยเจอมาก่อน ก่อนเกิดเหตุนั้นผู้นำหมู่บ้านพยายามเตือนเรื่องน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนให้นำสิ่งของขึ้นที่อยู่ แต่ไม่ทันอึดใจ น้ำป่าได้มาอย่างรวดเร็ว และทำให้ทรัพย์สินเสียหายดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 9 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆจะทำการสำรวจความเสียหายของเหตุน้ำป่าครั้งนี้อีกครั้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
/////////