บสย.ดึงเอสเอมอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน

147158วันที่ 17 ก.ย.2558  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเดอร์ปาร์ค อ.เมือง พิษณุโลก นายสิงห์ชัย บุณยโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เป็นประธานในการเปิดการจัดงานสัมมนา มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน และคลินิกค้ำประกันสินเชื่อ จ.พิษณุโลก ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเป็นส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการได้สินเชื่อเต็มตามจำนวนที่ต้องการ บสย. ได้เล็งเห็นความสำคัญของเงินทุนในการประกอบธุรกิจ และปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัดของ SMEs ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน147154

147155

ในปี 2558 บสย.มีโครงการมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุนลุเปิดคลินิกค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ติดขัดเรื่องการขอสินเชื่อ ได้จัดไปแล้ว 11 ครั้งในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ

147150

นายคมสัน วัฒนวนาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ในปี 2558 นี้ผลการดำเนินงานของสำนักงานสาขาพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -30 ส.ค. 58 บสย.สาขาพิษณุโลก ได้ให้ค้ำประกันสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 4,556 ราย คิดเป็นวงเงินค้ำประกัน 3,258.78 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อไปแล้วมากกว่า 9,800 ล้านบาท โดยจำนวนนี้ บสย.ได้ค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการ SMEs จ.พิ ษณุโลก จำนวน 1,226 ราย คิดเป็นวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 484.61 ล้านบาท และประเภทธุรกิจของ จ.พิษณุโลก ที่ให้ค้ำประกันสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อันดับ 1 ประเภท การบริการ อันดับ 2 ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม และอันดับ 3 ประเภทเกษตรกรรม โดยในงานวันนี้ มีผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมสัมมนา และฟังการบรรยาย และชมบูทแหล่งเงินทุน จำนวนมาก147156

147153

นายคมสัน เผยต่อว่า  ขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น ในส่วนของบสย.ให้บสย.ค้ำประกันในวงเงิน 100,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เดิมบสย.มีวงเงินการค้ำประกันอยู่ 80,000 บาท ได้รับภารกิจให้ค้ำประกันเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท เป็นวงเงิน 100,000 ล้านบาท และมีเงื่อนไขที่รัฐช่วยค่าธรรมเนียมผู้ประกอบการในเวลา 4 ปี ในปีแรกฟรี ปีที่สองภาครัฐจ่ายให้ 1.25 % ปีที่สามรัฐจ่ายค่าธรรมเนียมให้ 0.75 % ปีที่สี่รัฐจ่ายค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการ 0.25 % รวมแล้วภาครัฐจ่ายค่าธรรมเนียมให้ผู้ประกอบการ 4 % ในระยะเวลา 4 ปี ที่จะมีการลงนามเอ็มโอยูร่วมกันที่เมืองทองธานีในวันที่ 18 กันยายน 2558 นี้ ทั้งโครงการออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์ และเอ็มโอยูในส่วนที่บสย.ที่จะค้ำประกันสินเชื่อผ่านธนาคาร ข้อดีของโครงใหม่ที่บสย.จะเร่งดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ 100,000ล้านบาท จะเป็นการเพิ่มเม็ดเงิน และรัฐบาลจ่ายค่าธรรมเนียมให้ 4 % และรัฐเพิ่มส่วนชดเชยให้ธนาคารมากขึ้น จากเดิมรัฐชดเชยให้ 18 % โครงการใหม่รัฐชดเชยให้บสย.เพิ่มเป็น 30 % ทำให้ธนาคารพาณิชย์กล้าที่จะปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการมากขึ้น คาดว่าจะเป็นผลใน 4 เดือน ทั้งจากเงินผ่านกองทุนหมู่บ้าน เม็ดเงินที่ออมสินปล่อยกู้ 4 % และการค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มขึ้นในวงเงิน 100,000 ล้านบาท 3 ตัวรวมกันน่าจะช่วยเอสเอ็มอีได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย147152 //////

แสดงความคิดเห็น