เวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นางเอกอร หมีเทศ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านเสบียงบุญ ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถ.นเรศวร ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ว่ากล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านเอาไว้ได้ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านจำหน่ายพระบูชา พระพุทธรูปชนิดต่างๆ และเครื่องสังฆภัณฑ์นานาชนิด โดยกล้องวงจรปิดข้างร้านฝั่งที่ติดกับริมถนนนเรศวร บันทึกภาพเหตุการณ์ เมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 16 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 – 35 ปี สูงประมาณ 160 ซม. สวมเสื้อยีนส์แขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาว ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงมาจอดไว้ใกล้ร้าน จากนั้นคนร้ายลงมาจากรถและเดินปรี่เข้ามาทำท่าทีเหมือนเลือกซื้อสินค้าตามปกติ แล้วอาศัยจังหวะช่วงที่พนักงานของร้านเผลอ แอบฉกขโมยพระพุทธชินราชโลหะทองเหลืองกะไหล่ทอง พร้อมตู้ครอบกระจก หน้าตัก 3 นิ้ว ราคา 2,500 บาท อุ้มไปใส่ไว้ที่ตะกร้าหน้ารถและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้น ห่างไปจากเหตุการณ์ครั้งแรกประมาณ 10 นาที คนร้ายยังได้เดินย้อนกลับมาอีกรอบ คราวนี้ สวมหมวกแก็ปปิดบัง ได้ฉกพระพุทธชินราชแบบเดียวกันอีกองค์หนึ่งอย่างใจเย็น แล้วอุ้มวางไว้บนตักก่อนรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปไม่ทราบทิศทาง เบื้องต้นมีทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นพระพุทธชินราชโลหะทองเหลืองกะไหล่ทอง พร้อมตู้ครอบกระจก หน้าตัก 3 นิ้ว จำนวน 2 องค์ คิดเป็นเงินมูลค่า 5,000 บาท ด้าน
นางเอกอร หมีเทศ เจ้าของร้านเสบียงบุญ เปิดเผยด้วยความคับแค้นใจว่า ช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือก่อเหตุเป็นเวลาที่ผู้คนพลุกพล่าน มีรถยนต์รถจักรยานยนต์ผ่านไปมาจำนวนมาก แต่คนร้ายก็ยังลงมือแบบไม่แคร์สายตาใคร ในตุการณ์คนร้ายลงมือชโมยพระพุทธชินราชครั้งแรก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเข้าพอดี จึงรีบเข้ามาในร้านและบอกให้ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ามีคนร้ายขโมยพระพุทธชินราชอุ้มขึ้นรถขี่หลบหนีไปอย่างลอยนวลแล้ว ตนจึงกลับเข้ามาในร้าน เพื่อดูกล้องวงจรปิดเพื่อจะเซฟภาพจากกล้องไปแจ้งความที่สภ.เมืองพิษณุโลก แต่สักครู่ผ่านจากเหตุการณ์แรกแค่ 10 นาที ก็มีน้องผู้หญิงที่เป็นพลเมืองดี 2 คน เข้ามาบอกกลับตนที่ร้าน ว่ามีคนร้ายมาขโมยพระพุทธชินราชและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนออกไปดูก็พบว่าหลบหนีไปแล้ว จึงมาเปิดกล้องวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน แต่มารอบที่สองได้สวมหมวกแก็ปปิดบังใบหน้า
หลังจากเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาฉกพระพุทธชินราชไปแล้วนั้น ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลกมี พ.ต.อ.พุฒินนท์ คงเสมอ พงส.สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นเจ้าของคดีพร้อมกับนำไฟล์วิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ทั้งหมด นำมาแชร์ต่อในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นการกระจายข่าวและหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ เนื่องจากคนร้ายลงมืออย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่ร้านของตนเองอยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกเพียงไม่ถึง 50 เมตรเท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เดือนพฤษภาคม 2556 ร้านเสบียงบุญก็เคยถูกคนร้ายเข้ามาฉกพระพุทธชินราชขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ไปอย่างอุกอาจเช่นกัน ครั้งนั้นกล้องวงจรปิดก็บันทึกภาพคนร้ายได้ โดยจุดที่ขโมยพระครั้งนั้นอยู่ด้านริมร้าน ทางร้านจึงทำกระจกปิดกั้น แต่ก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสของคนร้ายรายนี้จนขยายผลไปการจับกุมได้ ทางร้านก็จะมีรางวัลสินน้ำใจให้.………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………