เวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 12 กันยายน 2558 ร.ต.ท.สาลี ดวงอุปปะ ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลกรับแจ้งอุบัติเหตุรถไฟพุ่งชนรถกระยะ ณ บริเวณทางข้ามรถไฟหน้าวัดสะพานสี่ ม.4 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล โดยพบว่า รถยนต์กระบะ อีซูซุ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน บฉ 1736 พิษณุโลก ถูกรถไฟขบวน 109 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขณะกำลังเดินทางเข้าสถานีพิษณุโลกพุ่งเข้าชนด้านหน้าบริเวณข้างซ้ายของรถอย่างแรง รถได้พลิกคว่ำลงมาอยู่ข้างทาง
โดยมีผู้ไดรับบาดเจ็บ 3 คน คือ นายไพบูลยอายุ 64 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนบึงพระ อยู่บ้านเลขที่ 828 ถ.บรมไตรโลกนารถ 2 ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก นางจรินทร์ พลูชู อายุ 60 ปี ภรรยา และ น.ส.สานันท์ ธิมีบัวใบ อายุ 15 ปี หลานสาว ทั้งหมดมีอาการทางกระดูก และมีรอยถลอกฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลอินเตอร์เวชการ
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายไพบูลย์ มีพยุง คนขับรถยนต์กระบะผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินทางพาครอบครัวมาฟังพระสวดอภิธรรมงานศพญาติที่รู้จักกันที่วัดสะพาน 4 หลังจากงานเลิกได้ขับรถออกมาจากวัดเพื่อกลับบ้านพัก ประกอบกับเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีฝนตกโปรยปราย และจุดทางข้ามรถไฟเป็นเนินดินสูง มีเครื่องกั้นรถไฟที่เพิ่งสร้างเสร็จแต่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน จึงไม่ทันระวังว่ามีขบวนรถไฟแล่นมาด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุทำให้รถไฟพุ่งชนเสียงดังสนั่นจนรถกระเด็นพลิกคว่ำลงมาอยู่ข้างทาง ส่วน น.ส.สานันท์ ธิมีบัวใบ หลานสาว พยายามคลานออกมาจากซากรถและไปตามให้คนมาช่วยเหลือ ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
สำหรับจุดข้ามรถไฟหน้าวัดสะพานสี่ ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลกนั้น เป็นจุดลักผ่านที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์เป็นประจำ ครั้งหลังสุดวันที่ 12 มิถุนายน 2558 ชนรถกระบะ บาดเจ็บสาหัส 1 และเสียชีวิต 1 ราย ล่าสุดการรถไฟและอบต.บึงพระ ได้สร้างเครื่องกั้นรถไฟอัตโนมัติในสภาพเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปรับภูมิทัศน์ ให้คนขับรถยนต์ได้มองเห็นทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ทำสัญญาณเตือน และมีป้ายเตือนใจขนาดใหญ่ติดหน้าวัดสะพานสี่ใช้รูปยมฑูตเพื่อย้ำเตือนให้ประชาชนได้ระวังอันตราย
……………………………………………………………………………………………………………………………..