เวลา 16.00 น.วันที่ 12 กันยายน 2558 ที่วัดเขื่อนขันธ์ ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้มีพิธีเผาศพ เจ้าร็อกกี้ สุนัขเพศผู้วัย 15ปี สุนัขตัวโปรดของพระครูประภากรไชยสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลกรูปที่ 1 โดยมีการทำพิธีกรรมเหมือนกับงานพิธีศพของคน หลังจากเจ้าร็อกกี้ได้ป่วยและเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์ก็ได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพให้เป็นเวลา 3 คืน ที่ศาลาหลังเล็กของวัดเขื่อนขันธ์
ในวันนี้ มีศิษย์เก่าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม และศิษย์เก่าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี เพื่อนเรียนร่วมรุ่นกับเจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์เป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมศพ ทางวัด ได้นิมนต์พระสงฆ์ทุกรูปทำการสวดพระอภิธรรม และมีพิธีทอดผ้าบังสุกุล ถวายปัจจัย และกรวดน้ำ เหมือนกับพิธีศพของคน แต่จะต่างกันตรงที่ ผู้ร่วมพิธีจะไม่ไหว้ศพสุนัข หลังจากเสร็จพิธีบนศาลาหลังเล็ก ได้เคลื่อนร่างเจ้าร็อกกี้ มายังหน้าเมรุสัตว์เลี้ยงแสนรัก ที่อยู่ติดกับเมรุเผาศพของคน เจ้าภาพได้ตั้งโลงศพเจ้าร็อกกี้ ไว้ด้านหน้าป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ที่รวบรวมภาพถ่ายของเจ้าร็อกกี้ขณะยังมีชีวิตอยู่ ที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าร็อกกี้ที่จะไปอยู่แทบทุกงานของวัดเขื่อนขันธ์ จากนั้น มีพิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล วางดอกไม้จันทน์ และดอกกุหลาบสีแดง ใส่ในโลงศพเจ้าร็อกกี้ และเคลื่อนย้ายโลงศพเจ้าร็อกกี้มาบนเตาเผาศพสัตว์เลี้ยงแสนรัก ที่ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงในการเผา เจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์ได้ทำพิธีจุดดอกไม้จันทน์เพื่อเผาศพเจ้าร็อกกี้
สำหรับงานศพของเจ้าร็อกกี้ สุนัขตัวโปรดของเจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์นั้น นับเป็นสุนัขตัวแรก ที่ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 คืน หลังจากวัดเขื่อนขันธ์ได้สร้างเตาเผาสัตว์เลี้ยง หรือ เมรุสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพื่อบริการประชาชนทั่วไป ให้สามารถนำสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตลงมาประกอบพิธีเผาเป็นแห่งแรกของจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี 2556 แต่ผู้ที่นำสัตว์เลี้ยงมาเผาหลายร้อยตัวไม่ได้ทำพิธีตั้งสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 คืนเหมือนเจ้าร็อกกี้ จะทำแต่เพียงพิธีสวดบังสุกุลบริเวณหน้าเมรุสัตว์เลี้ยงและทำการเผาเลย
พระครูประภากรไชยสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์ ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานศพเจ้าร็อกกี้ และได้บอกกับเจ้าร็อกกี้ที่โลงศพว่าให้ไปสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อ ( เจ้าอาวาส ) พร้อมกับเล่าถึงประวัติเจ้าร็อกกี้ว่า มีคนนำใส่กล่องมาทิ้งพร้อมกับลูกสุนัขอีก 2 ตัว บริเวณหน้าอุโบสถ ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2543 หลังจากเสร็จพิธีทำบุญก็เดินไปดูพบเห็นลูกสุนัขที่กำลังเดินเต๊าะแตะอยู่ในกล่อง 3 ตัว จากนั้นตัวเจ้าอาวาสก็เดินกลับมาที่กุฏิ ปรากฏว่า เจ้าร็อกกี้ ได้เดินตามเจ้าอาวาสมาที่กุฏิ จึงเลี้ยงเจ้าร็อกกี้ไว้ในกุฏิเรื่อยมา และตลอดเวลาที่ร็อกกี้เติบโตในวัดเขื่อนขันธ์ จะเป็นที่รู้จักมักคุ้นกับชาวบ้านในละแวกนี้เป็นอย่างดี เจ้าร็อกกี้จะตามเจ้าอาวาสขึ้นไปบนศาลาการเปรียญในวันพระเป็นประจำ และจะร่วมพิธีสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นกับพระวัดเขื่อนขันธ์ทุกวัน และของกินโปรดที่ชอบมากคือลูกอมฮอลล์รสน้ำผึ้งผสมมะนาว จะต้องซื้อติดกุฏิไว้ไม่ให้ขาด เพราะเจ้าร็อกกี้จะชอบขอกินอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เจ้าร็อกกี้โปรดปรานมากที่สุดคืองานศพของคน เมื่อมีงานเผาศพ เจ้าร็อกกี้จะต้องเดินจากกุฏิเจ้าอาวาส มาที่หน้าเมรุเผาศพ และรอจนกระทั่งพระขึ้นวางดอกไม้จันทน์เสร็จ ก็จะเดินกับไปที่กุฏิเจ้าอาวาส
และหลังจากเสียเจ้าร็อกกี้ สุนัขตัวโปรดไปแล้ว เจ้าอาวาสวัดเขื่อนขันธ์บอกว่า ไม่เลี้ยงสุนัขอีกแล้ว เพราะมันผูกพันกันมาก เจ้าร็อกกี้ก็เปรียบเสมือนกับลูก และงานของสงฆ์ก็เริ่มมีมากขึ้น ต้องช่วยงานเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลกมากขึ้น จะไม่ค่อยมีเวลาให้กับสุนัขมาก