ปีหน้าแล้งแน่เขื่อนแควน้อยคาดฝนปีนี้เก็บน้ำได้แค่ 70%

Image2นายสมหวัง  ปารสุขสาร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยถึงสถานการณ์การกักเก็บน้ำของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนในช่วงฤดูฝนปี 2558 ว่า ณ ขณะนี้ต้นเดือนกันยายน 2558 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีน้ำอยู่ 241 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม. ) คิดเป็น 26 % ของปริมาณกักเก็บ มีน้ำใช้การได้ 198 ล้านลบ.ม. หรือ 21 % ของความจุอ่างที่ 939 ล้านลบ.ม. ปี2558 ถือว่ามีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างน้อยมาก ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันในค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาเดือนกันยายนจะเก็บน้ำได้ประมาณ 50 % แม้แต่เขื่อนใหญ่เอง เขื่อนสิริกิติ์จ.อุตรดิตถ์ ณ วันนี้มีน้ำใช้การได้อยู่ประมาณ 1,000 ล้านลบ.ม. หรือ 15 % เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีน้ำใช้การได้ประมาณ 565 ล้านลบ.ม. หรือ 6 % จะเห็นว่าน้ำในเขื่อนใหญ่แต่ละเขื่อนค่อนข้างน้อยมาก

สมหวัง ผอ.เขื่อนแควน้อย01

และปกติเลยน้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนจะมาเยอะมาก ๆ อยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม เราต้องรอคุ้นกันอีก แต่จากการโดยใช้ค่าฝนโดยเฉลี่ย น้ำในเขื่อนแควน้อยจนสิ้นเดือนตุลาคมน่าจะกักเก็บได้ประมาณ 70 % และต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศอีกครั้ง โดยฤดูฝนปีนี้เขื่อนแควน้อยส่งน้ำในพื้นที่ชลประทานตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม สิ้นสุด 18 ตุลาคม 2558 ขณะนี้กรมชลประทานเองก็ประเมินสถานการณ์ภาพรวม สภาพน้ำของเขื่อนแต่ละเขื่อนจะเป็นอย่างไรบ้าง จะชี้แจงให้เกษตรกรทราบอีกครั้งหนึ่งสำหรับแผนการส่งน้ำในฤดูแล้งปี 2558

Image7

นายสมหวัง เผยต่อว่า ต้องพิจารณาจากเขื่อนใหญ่ประกอบ มีการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศ เขื่อนแควน้อยอาจจะมาก แต่เขื่อนใหญ่อาจจะน้อย แต่ปีนี้ มีปริมาณน้ำน้อย สาเหตุคือ ฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย และตกไม่ต่อเนื่อง เมื่อฝนตกลงมา ก็จะไหลซึมลงดิน ไม่ไหลลงเข้าอ่างเก็บน้ำ ขณะที่หน้าฝนปีที่ผ่าน ๆ มา ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ณ วันนี้กันยายน ปริมาณฝนค่าเฉลี่ยของเขื่อนแควน้อยจะอยู่ที่ 983 มิลลิเมตร แต่เดือนกันยายน 2558 มีปริมาณฝนที่ 700 กว่ามิลลิเมตรเท่านั้น และปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนโดยเฉลี่ยจะมาที่ 700 กว่าล้านลบ.ม. แต่ปีนี้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนที่ 300 กว่าล้านลบ.ม.เท่านั้น ถือว่าน้ำไหลเข้าน้อย เพราะฝนตกไม่ต่อเนื่อง ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาซึมลงไปในดินเป็นส่วนใหญ่

Image1

สำหรับเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน สามารถกักเก็บน้ำได้ 939 ล้านลบ.ม. และค่าเฉลี่ยของทุก ๆ ปี จะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนที่ 1,600 กว่าล้านลบ.ม. ซึ่งปกติเกือบเต็มทุก ๆ ปี เพราะป่าต้นน้ำแถวอ.ชาติตระการ อ.นครไทย จ.พิษณุโลกมีป่าต้นน้ำที่ค่อนข้างดี น้ำไหลเข้ามามาก เขื่อนแควน้อยเริ่มกักเก็บตั้งแต่ปี 2552 ก็เกือบเต็มเขื่อนทุกปี เพียงแต่ว่าปีนี้มีฝนตกน้อย หลังจากหยุดการส่งน้ำในวันที่ 18 ตุลาคม 2558 และประเมิณสถานการณ์อีกครั้งและจากการประเมินสถานการณ์ที่น้ำค่อนข้างน้อย ทางโครงการได้เตรียมการส่งเสริมให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำในปริมาณค่อนข้างน้อย และส่งเสริมเรื่องเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว เพื่อให้ใช้น้ำในปริมาณค่อนข้างน้อย และให้ได้ผลผลิตที่มากกว่าการปลูกข้าวที่ใช้น้ำแช่ ซึ่งต้องประเมินกันอีกรอบว่าจะใช้น้ำอย่างไร และจากสถานการณ์ฝนที่ตกน้อย กรมชลประทานได้ใช้นโยบายใหม่ ประการแรกใช้น้ำเพื่อการอุปโภคเป็นอันดับแรก ประการที่สองคือรักษาระบบนิเวศน์ ให้มีน้ำแช่อยู่ในแม่น้ำ ให้สามารรถสูบน้ำไปทำประปาได้ ผลักดันน้ำเค็มได้ และประการที่สามถึงจะมาใช้น้ำเรื่องการเกษตร ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์กันอีกที แต่คาดว่าปี 2558 จะมีปริมาณน้ำกักเก็บได้ค่อนข้างน้อย ในปี2559 พื้นที่ชลประทานจะต้องส่งเสริมการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยImage6

แสดงความคิดเห็น