เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 4 ก.ย. 2558 พ.ต.อ.ไพรินทร์ แสงแก้ว นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 นำเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับนายสมิท เสริมนิภารัตน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครพิษณุโลก ทำการตรวจโกดังเก็บสินค้าประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิก ร้านชุมพลอิเล็กทรอนิก เลขที่ 226/5 ถนนพิชัยสงคราม อ.เมืองพิษณุโลก ที่ไฟไหม้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา จนทรัพย์สินที่เก็บไว้เสียหาย และอาคารชำรุดและพังหลายจุด 
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน 6 ได้ ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่ชั้นที่ 3 ของอาคาร ลงมาชั้นล่างสุด โดยเฉพาะบริเวณปลั้กคัทเอาท์ไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบว่า มีการตรวจกระแสไฟอัตโนมัติหรือไม่ ขณะที่จุดเกิดเหตุเป็นชั้น 2 ของอาคารด้านหลังนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากสภาพของอาคารชำรุดมาก จำเป็นต้องซ่อมแซมอาคารเพื่อรองรับน้ำหนักสินค้าที่เก็บไว้ และถูกไฟไหม้ 
เบื้องต้นนายสมิท เสริมนิภารัตน์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครพิษณุโลก ได้แจ้งกับนายสมภพ เฉลิมวรางกูร เจ้าของร้านดังกล่าว ให้ทำการซ่อมแซมต่อเติมชั้นนั่งร้าน เพื่อรองรับน้ำหนักสิ่งของก่อน ซึ่งในช่วงก่อนซ่อมแซมนั้น ก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก มาตรวจสอบและแนะนำการต่อเติม เพื่อความปลอดภัย และป้องกันทำลายหลักฐานที่ตกในจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง 
ระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องปิดกั้นห้ามบุคคลอื่นเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุ เพราะอาจได้รับอันตรายจากอาคารที่จะพังถล่มลงมาได้ทุกขณะ
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้สอบถามนายเกรียงศักดิ์ จันทร์โชติ อายุ 31 ปี พนักงานร้านชุมพลอิเล็กทรอนิก ที่เห็นเหตุการณ์คนแรก โดยนายเกรียงศักดิ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านมาแจ้งว่ามีไฟฟ้าโกดัง หลังจากนั้นจึงได้วิ่งออกมาดูและไขกุญแจ เข้าไปในอาคาร ซึ่งคิดว่าจะนำถังดับเพลิง เข้าไปดับ แต่ไฟได้ลุกลามไหม้สินค้าบริเวณชั้น 2 ของโกดังอย่างหนัก ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงวิ่งออกมาแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยกันดับเพลิง ซึ่งที่โกดังแห่งนี้กลับพบว่ากล้องวงจรปิดเสีย ไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ มูลค่าความเสียหายครั้งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ทางเจ้าของโกดังแห่งนี้ได้ประกันอัคคีภัยไว้ที่ 40 ล้านบาท 
ขณะที่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลก ยังคงนำรถน้ำมาฉีดพ่นหล่อเลี้ยงตัวอาคารไว้ เนื่องจากยังไม่บางจุดที่มีควันไฟปะทุขึ้นมาเป็นบ้างช่วง นอกจากนี้ยังว่าระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้ยังพบว่ามีผู้ไม่หวัง หวังเข้าไปช่วยเหลือและเก็บข้าวของบริเวณร้านข้างโกดังที่เกิดเหตุ แล้วหยิบฉวยทรัพย์สินไป โดยนายธนศักดิ์ พุดดวง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 644/19 ถนนพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นผู้เสียหายดังกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงชุลมุน ไม่ทราบว่าผู้ใด ที่เข้าไปช่วยขนของหนีไฟ ที่กลัวว่าจะลุกลามมาติดบ้านของตนเอง กลับหยิบฉวยกระเป๋าเงิน และรองเท้าของตนเองที่วางไว้ในห้องพักไป ซึ่งตนเองก็จะเข้าไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อีกทางหนึ่ง
////////////