เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ส.ค. 58 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.สืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานประชุมร่วมกับผู้ประการร้านค้าและสถานบันเทิง เพื่อชี้แจงข้อปฏิบัติและข้อกฎหมายในการดำเนินธุรกิจการค้า โดยให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค. 2558 เกี่ยวกับ พ.ร.บ.สถานบันเทิง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2515 และพ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526
ในที่ประชุมได้เน้นเกี่ยวกับป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ และยินยอมให้เข้าไปใช้บริการ รวมทั้งการเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ตลอดทั้งการก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง หรือการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป้นความผิดตามที่กฎหมายกำหนด หากมีการตรวจพบจะดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมกับสั่งปิดสถานประกอบการตามความผิดเป็นเวลา 5 ปี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.05 น. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ กระทรวงมหาดไทย และนายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน พร้อมชุดเฉพาะกิจจังหวัดพิษณุโลก จำนวนกว่า 100 นาย เข้าตรวจสถานบริการรอบสถานศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก พบร้านซุสบาร์เปิดบริการจำหน่ายสุราให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี หลังตรวจพบศึกษาหญิง 2 คน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และร้านไม้หมอน ถ.เอกาทศรถ ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ตรวจบัตรประชาชนเยาวชนชาย 1 ราย อายุต่ำกว่า 20 ปี โดยทั้งสองร้านจำหน่ายสุราให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ฝ่าฝืนตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ข้อ 4 (2) จึงดำเนินการสั่งปิด 5 ปี
พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก. สส. กล่าว วันนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกผู้ประกอบการ สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีชุดเฉพาะกิจกระทรวงมหาดไทยเข้ามาจับกุมและใช้คำสั่ง คสช.ปิดสถานบริการ ทางตำรวจพิษณุโลกมีความไม่สบายใจ เพราะที่ผ่านมามีการเข้มงวดกวดกันอยู่ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดและไม่ให้ภาพพจน์จังหวัดพิษณุโลกเสียหาย จึงได้เรียกผู้ประกอบการมากำชับให้ทราบถึงคำสั่งและข้อกฎหมายที่จำเป็น เพื่อให้การดำเนินการอยู่ในกรอบกฎหมาย ให้เข้าใจถูกต้องการให้บริการ และไม่เคยปล่อยปละละเลย มีการตรวจทุกสัปดาห์อยู่แล้ว เพราะชุดเฉพาะกิจส่วนกลางมาตรวจทำให้เจ้าของร้านไม่รู้จัก ทำให้ไปรับเด็กเข้ามา เป็นความบกพร่องของผู้ประกอบการ หลังชี้แจงไปแล้วจะมีการติดตาม ถ้าที่ไหนกระทำผิดจะไม่มีการเตือนอีก