นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจฯ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 สายที่ 1 ,หน่วยฯ พล 1 (วังทอง),หน่วยฯ พล 7 (บ้านแยง), ร่วมกับหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 6 (พันชาลี) ร่วมกันออกตรวจป่าในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงซึ่งสภาพป่าสมบูรณ์ ห่างจากถนนหมายเลข 12 ประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าต่อขึ้นไปภูเขาอีก 1 กม. กระทั่งพบไม้ประดู่ล้ม คาตออยู่ยอดเขา ตรวจสอบแล้วมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 200 เซนติเมตร จำนวน 1 ต้น ได้ถูกแปรเป็นท่อนและไม้แปรรูปอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่จึงยึดไม้ประดู่ หรือ ไม้กระยาเลยจำนวน 1 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 0.26 ลบ.ม. พร้อมไม้แปรรูปจำนวน 11 แผ่น คิดเป็นปริมาตร 0.80 ลบ.ม. แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด ท้ายบ้านท่าข้าม ม.5 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจึงรวบรวมเอกสารหลักฐาน ของกลาง นำส่ง พงส.สภ.แก่งโสภา อำเภอวังทอง พิษณุโลก
จากนั้นได้ออกสืบหาผู้กระทำความผิด โดยสอบพยานแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งทราบว่า ผู้ที่มาตัดไม้ ได้นำไม้มาพัก 3 จุด โดยจุดแรก เจ้าหน้าที่อุทยานฯบุกค้นบริเวณกลางสวนบ้านแห่งหนึ่งตามเป้าหมาย แต่ไม่พบ กระทั่งตรวจสอบบ้าน 1 ใน 2 บ้านเป้าหมาย ในหมู่ 5 พบว่า เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว มีร่องรอยขี้เลื่อย และพบ ไม้อยู่นอกชายคาบ้านกองอยู่ส่วนหนึ่ง จึงประสาน ตำรวจ สืบภาค 6 นปพ.เข้าร่วมตรวจสอบเข้าตรวจสอบทันที
เจ้าของบ้าน คือ นายแดง สีหนาท อายุ 52 ปี นำตรวจสอบและรับสารภาพว่า ซุกซ่อนไม้เถื่อน และส่วนหนึ่งนำไม้ออกมาจากทุ่งแสลงหลวง ตรวจพบ ไม้กระยาเลยแปรรูป 113 แผ่น(เหลี่ยม) ปริมาตร 0.965 ลบ.ม. อุปกรณ์ฯ เลื่อยโซ่ยนต์รวม 2 เครื่อง อื่นๆรวม 4 รายการ/6 ชิ้น บริเวณบ้านเลขที่ 4 บ้านท่าข้าม ม.5 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
จนท.จึงจับกุม นายแดง สีหนาท เป็นผู้ต้องหา 1 คน คือ มีความผิดตามฐานครอบครองไม้และแปรรูปไม้ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 และพรบ.อุทยานแห่งชาติ และฐานความผิดมี่เลื่อยโซ่ ไม่ได้รับอนุญาต ส่ง พงส.สภ.แก่งโสภา อำเภอวังทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป