ไฟไหม้เจดีย์วัดเสนาสน์มณฑปพระบรมสารีริกธาตุเสียหายหนัก

218574วันที่ 23 ส.ค..58 เวลาประมาณ 07.30 น.  รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในเจดีย์วัดเสนาสน์  ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์สภ.วัดโบสถ์ พร้อมด้วย สายตรวจรถจักรยานยนต์ และสายตรวจท่างาม ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลวัดโบสถ์และอบต.ท่างาม กำลังควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ภายในเจดีย์ หลังเพลิงสงบ ตรวจสอบภายในเจดีย์พบมณฑปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเสียหายเกือบทั้งหมด จึงได้ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ และแจ้งร้อยเวรสอบสวนสภ.วัดโบสถ์เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้ และผู้สื่อข่าวจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป11920494_877300875693445_1577675302_n

11939383_877299825693550_569887967_o

11937917_877301032360096_1156481249_n

11926442_877299872360212_761617288_o

11911826_877301189026747_2044612851_n

11909654_877300935693439_899591183_n

ข้อมูลจากเว็ปไซด์อบต.ท่างาม ให้ข้อมูลว่า วัดเสนาสน์  ตั้งอยู่ที่  128  หมู่ที่  1  บ้านสวนป่าน  ตำบลท่างาม  อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก  สังกัดสงฆ์มหานิกาย  มีพื้นที่ตั้งวัดเนื้อที่  10  ไร่  2  งาน  60  ตารางวา วัดเสนาสน์เป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยใดไม่มีใครทราบแน่ชัดสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นก่อน   พ.ศ.1232  และได้มีการย้ายสถานที่ตั้งเสนาสนะหลายครั้งหลายหน  นับถึงปัจจุบันได้  5  ครั้ง

218575

218572

218573

หลักฐานโบราณวัตถุสถานในวัดเสนาสน์  1.ศาลาการเปรียญ  จำนวน  1 หลัง ลักษณะทรงไทยทั่วไป ชั้นเดียวยกพื้นสูง เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง  24 เมตร  ยาว  42 เมตร  ใช้ประโยชน์ในการทำพิธีการทางศาสนาและวันสำคัญต่าง  ๆ  2.อุโบสถ  จำนวน  1 หลัง เป็นพระอุโบสถศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์  ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประทาน  ลักษณะทรงไทย  เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง 6.50 เมตร ยาว 13 เมตร  ประโยชน์ใช้ในการทำพิธีอุปสมบท  และทำวัตรเช้า – เย็น 3. วิหารคต (วิหารหลวงพ่อโต)  จำนวน 1 หลัง ลักษณะทรงไทย เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว  12 เมตร  4. หอระฆัง  จำนวน  1 หลัง ลักษณะทรงไทยวิจิตร  3 ชั้น  เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง ประดับตกแต่งลายปูนปั้น  กระจกแก้วสี  ติดลูกกรงแก้ว  แนวระเบียง  ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร สูง  15 เมตร  5. หอสวดมนต์ จำนวน 1 หลัง ลักษณะทรงไทย 2 ชั้น เป็นไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 10 เมตร (ปัจจุบันใช้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ)  6. เรือยาว  พญาอินทรีย์ จำนวน 1 ลำ  ขุดด้วยไม้ตะเคียงขนาดใหญ่ยาว 13 วา บรรจุฝีพายจำนวน  48 คน ได้ทำชื่อเสียงให้แก่หมู่บ้าน วัดหลายสมัย  7. พระบรมสารีริกธาตุ  ปูชนียวัตถุอันล้ำค่า  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั่วไปเคารพนับถือ  กราบไหว้บูชา    8. สถูปเจดีย์ จำนวน  1 องค์  ลักษณะย่อมุม  12 เหลี่ยม  ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของวิหาร (หลวงพ่อโต)    9. พระมหาเจดีย์  จำนวน 1 องค์  ลักษณะย่อมุม  12 เหลี่ยม  ขนาดความสูง 44 เมตร กว้าง 28 เมตร เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เริ่มสร้างตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2537  แล้วเสร็จในปี  พ.ศ. 2553

218571

11909791_877301092360090_1467588460_n

อภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมสารีริกธาตุ  จากหลักฐานประวัติศาสตร์การบอกเล่าหรือจากการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ของอำเภอวัดโบสถ์  จำนวน  150  คน  พอสรุปได้ว่า  องค์พระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดเสนาสน์จะเสด็จมาที่วัดเสนาสน์และกลับเอง  โดยเฉพาะเมื่อใกล้จะวันขึ้น  1  ค่ำ  เดือน  5  ของทุกปีนั้น  ช่วงระยะกลางดึกจะปรากฏวัตถุเรืองแสงเกาะกันเป็นกลุ่มลอยผ่านหลังคาบ้านเรือน  และเมื่อถึงบริเวณที่ตั้งวัดเสนาสน์วัตถุเรืองแสงดังกล่าวนั้นจ ะลอยต่ำลงและหายไปในที่สุด  จวบจนกระทั่งพิธีการสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุเสร็จสิ้นลง  ในช่วงกลางดึกประมาณเวลาเดียวกัน  จะปรากฏวัตถุเรืองแสงลอยขึ้นจากบริเวณที่ตั้งวัดเสนาสน์และเกาะ กันเป็นกลุ่มลอยย้อนกลับไปในทิศที่เห็นในทิศที่เห็นในครั้งแรกดังกล่าว  และที่แปลกมากยิ่งขึ้นกล่าวคือ  หากในปีใดประชาชนชาววัดเสนาสน์มีความสมัครสมานสามัคคี  มีความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข  ในปีนั้นก็จะมีพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานปรากฏอยู่จนเกือบเต็มโถแก้ว  แต่หากในปีใดประชาชนชาววัดเสนาสน์แตกแยกความสามัคคีซึ่งกันและกัน  ข้าวยากหมากแพง  ในปีนั้น  พระบรมสารีริกธาตุจะมาประดิษบานปากฎอยู่น้อยมากจนเกือบหมดโถ

และจากคำบอกเล่าของภิกษุสูงอายุรูปหนึ่งซึ่งสังกัดอยู่  ณ  วัดเสนาสน์  คือ  “หลวงตาไปล่อินทโชโต”  อายุ  96  ปี ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อสมัยก่อนนั้นได้เกิดโรคอหิวาตกโรค (โรคห่า)  แพร่ระบาดในหมู่บ้าน  เป็นเหตุให้มีชาวบ้านล้มตายเป็นจำนวนมาก  สร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก  และในครั้งนั้นเองก็ได้มีชาวบ้านบางกลุ่มนำน้ำที่ผ่านการสรงองค์พระบรมสารีริกธาตุแล้ว  ไปจุดธูปเทียนกล่าวอธิษฐานและดื่มกิน  ซึ่งปรากฏว่าชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวสามารถรอดพ้นและปลอดภัยจากโรค ระบาดได้

 

ดังนั้น  เมื่อถึงวันขึ้น  1  ค่ำ  เดือน  5  ของทุก  ๆ  ปี  เพียง  1  วันเท่านั้น  ที่ทางวัดเสนาสน์จะจัดพิธีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ  ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนทั่วไปหลั่งไหลเข้ามาเพื่อนมัสการพระบรมสารี ริกธาตุเป็นจำนวนมาก  พร้อมทั้งมีชาวบ้านอีกหลายคนมารอคอยเพื่อรองรับน้ำสรงที่ล้นออก มาจากภาชนะบรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุ   นำไปปะพรมคนในครอบครัว  บ้านเรือน  ไร่นา  และอื่น  ๆ  ให้เกิดความเป็นสิริมงคล  ขจัดปัดเป่าความทุกข์นานาประการให้หมดไปจากครอบครัว  ตลอดจนตราบถึงปัจจุบันนี้

ขอบคุณภาพจากเทศบาลตำบลวัดโบสถ์

แสดงความคิดเห็น