นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จากการตรวจสถานบันเทิงเมื่อคืนวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา เป็นผลของการสนธิกำลังของฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจและพัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์ และได้มีการสั่งปิดสถานบันเทิง 2 แห่ง ซึ่งเรื่องนี้ที่ผ่านมาทางจังหวัดพิษณุโลกได้มีการออกตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว พร้อมได้มีการกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเรื่องนี้ขอเตือนให้สถานประกอบการปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย และหลังจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 โดยมุ่งเน้นห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมทั้งยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน ก็ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมา จ.พิษณุโลก ก็ยังมีสถานบันเทิงที่เข้าข่ายเสี่ยงอยู่ จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบไปชี้แจงทำความเข้าใจ และไม่ละเมิดกฎระเบียบต่างๆ
พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า หลังจากชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจพบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้บริการสถานบริการและจำหน่ายแอลกอฮอล์ ในเรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นหลังจากมีการตรวจพบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ทางผู้ประกอบการต้องถูกดำเนินคดีตากฎหมาย และร้านจะถูกสั่งปิดทันที 5 ปี ซึ่งในส่วนการทำงานของตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบสังคมพิษณุโลก โดยร่วมกันทำงานอย่างเข้มงวดตรวจสอบทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แต่เมื่อพบว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น คงต้องมีการตรวจสอบ หรืออาจต้องมีการย้ายตำรวจที่ดูแลในพื้นที่สถานบริการนั้น ๆ เข้ามาช่วยราชการที่ภาค 6 ไว้ก่อนภายใน 24 ชั่วโมงนี้ แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สั่งการให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกทำเรื่องเสนอขึ้นมาก่อน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ออกตรวจสถานบันเทิงและสถานประกอบการตลอดทุกครั้งที่ผ่านมา และเมื่อค่ำคืน จากการสอบถาม ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทยไปตรวจซ้ำ ก็ไม่ทราบว่ามีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปร่วมด้วยหรือไม่ แต่ก็จะรายงานให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ทราบถึงข้อเท็จจริงอีกครั้ง และจากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ขณะนี้ตนยังไม่ได้เซ็นคำสั่งย้ายนายตำรวจท่านใดไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 6 แต่อย่างใด ต้องรอตรวจสอบขอเท็จอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ถ้าหากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือพบว่ามีสถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการฝ่าฝืนต่อคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 ดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือที่สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก.
ด้าน นายจิรวัฒน์ พฤกษ์ศิริไพบูลย์ เจ้าของร้านไม้หมอน เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจร้านในช่วงเวลา 01.10 น. แล้วพบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี อยู่ภายในร้าน จำนวน 1 คน ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551และถูกสั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 ด้วย มองว่าเรื่องนี้เป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป ส่งผลให้พนักงานของร้านที่มี 40-50 คน ต้องถูกเลิกจ้างไม่มีงานทำทันที
“ที่ผ่านมาทางร้านให้ความร่วมมือกับราชการให้ความสำคัญกับปัญหาสังคม โดยร่วมมือในการกวดขันเข้มงวดกับเด็กเยาวชนที่จะเข้ามาใช้บริการในร้าน ซึ่งช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่มาตรวจ เป็นช่วงที่ร้านได้ปิดการให้บริการแล้ว แต่ยังเปิดไฟในร้านอยู่เพราะฝนตกลูกค้าออกไปไม่ได้ และก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปได้อย่างไรเป็นเหตุสุดวิสัย ทางร้านจึงอยากวอนขอว่านโยบายดังกล่าวมาซ้ำเติมเศรษฐกิจให้คนระดับรากหญ้า ต้องขาดรายได้หลังจากตกงาน อีกทั้งคนกลุ่มนี้มีความรู้น้อยการหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้อาจกลายเป็นปัญหาสังคม มองว่าการลงโทษด้วยการปิดกิจการ 5 ปีรุนแรงเกินไป เพียงพบเด็ก อายุ19 ปี 1คน มาใช้บริการในร้านช่วงที่ร้านปิดแล้ว ต้องปิดร้านนาน 5 ปี ถ้าเป็นการพบยาเสพติด มีโทษปิดร้าน 5-10 ปีก็จะไม่รู้สึกอะไร เพราะในอดีตการลงโทษสถานประกอบการมีโทษให้ปิดร้าน 30 วันทางร้านยังสามารถดูแลพนักงานในร้านได้ แต่โทษปิดกิจการนาน 5 ปี ทางร้านไม่มีกำลังดูแลคนเหล่านั้นได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวน ขอความเห็นใจ ปัญหานี้ร้ายแรง การปิดกิจการที่ยางนาน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้วเหมือนมาซ้ำเติมเศรษฐกิจให้หยุดชะงักลงไปอีก และอาจเพิ่มปัญหาสังคมจากกลุ่มคนที่ต้องตกงานจากนโยบายดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อำนวยการโดยนายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครองจากส่วนกำกับและตรวจสอบ และส่วนการสอบสวนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งนำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ และพนักงานฝ่ายปกครองจังหวัดและ อ.เมืองพิษณุโลก นำโดยนายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก ร่วมกับสรรพสามิตจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด กองพลทหารราบที่ 4 สภ.เมืองพิษณุโลก สภ.ชุมชนนเรศวร และ ปคม. เปิดปฏิบัติการ “สองแคว”
โดยช่วงเวลา 22.30 น. ของวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานได้ทำการตรวจสอบสถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.ร้าน L.ก.ฮ. 2.ร้านนั่งชิลล์ นั่งเล่น เทอมินอล 3.ร้านซุสบาร์ และ 4.ร้านพาเพลิน เบื้องต้นทั้ง 4 ร้าน ไม่พบว่ามีบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ หรือมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยได้มีการกำชับให้ร้านปิดทำการตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้ตรวจเสร็จสิ้นในเวลา 23.30 น. แต่ทั้งนี้เจ้าพนักงานได้วางตัวสายลับไว้ภายในร้านทั้ง 4 ดังกล่าว เพื่อสอดส่องดูการประกอบกิจการจนกว่าร้านจะปิด ปรากฏว่าเวลา 23.45 น. ร้านซุสบาร์ (Zeus Bar) เลขที่ 342/2 หมู่ 7 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองฯ ได้มีบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลดังกล่าว จำนวน 2 คน เจ้าพนักงานจึงได้เข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง พบว่าทั้งสองเป็นนักศึกษาหญิง อายุ 19 ปี เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ม.นเรศวร เจ้าพนักงานจึงได้ทำการจับกุมนายนิธิศ ธนะชูติกีรนันท์ เจ้าของร้าน ในข้อหาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนร้านซุสบาร์เจ้าพนักงานได้สั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 โดยทันที
ต่อมาเวลา 01.00 น. เจ้าพนักงานได้เข้าตรวจสอบร้านไม้หมอน เลขที่ 252/6 หมู่ 5 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก และใกล้กันกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ พบว่ามีการยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 รวมทั้งยังพบว่ามีบุคคลไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนเข้ามาใช้บริการอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้จับกุมนายจิรวัฒน์ พฤกษ์ศิริไพบูลย์ ผู้ดูแลร้าน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้สั่งปิดร้านไม้หมอนเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 โดยทันทีเช่นกัน
………………………………………………………………