เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17ส.ค. 58 ที่บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์สามวิหาร หมู่ 6 บ้านเนินมะคึก ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก นายชาติชาย สงวนพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และนายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลกนางรัตติยา ไชยวงศ์ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปกรที่ 6 สุโขทัย กรมศิลปากร พร้อมด้วยนางทองม้วน พันธุรีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสมอแข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงกับชาวบ้าน หมู่ 6 บ้านเนินมะคึก ต.สมอแขอ.เมืองพิษณุโลก จำนวนกว่า 100 คน ที่รวมตัวเดินหน้าคัดค้านประท้วงการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะเพื่อผลิตเชื้อเพลิง RDF และปุ๋ยอินทรีย์ โดยได้รับงบประมาณจากกรมทรัพยากรธรรมชาติและส่งแวดล้อม มูลค่า 61 ล้านบาท
ด้าน นายชาติชาย สงวนพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในวันนี้ทางนักโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย กรมศิลปากร ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์สามวิหาร จำนวน 17 ไร่ ตามที่มีการร้องขอจากชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากเชื่อว่าในจุดดังกล่าวนั้นเป็นวัดโบราณมาก่อน ส่งผลให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ ที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลสมอแขได้รับงบประมาณการก่อสร้างจากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวงเงิน 61 ล้านบาท เพื่อจัดการปัญหาขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ขณะที่ นางรัตติยา ไชยวงศ์ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.สมอแข ได้ทำการร้องขอให้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่ดินสาธารณะประโยชน์สามวิหาร เพราะเชื่อว่าที่แห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่มาก่อนและร้างไปในที่สุด โดยชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่ามีการค้นพบเศษกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผาต่างๆ จึงไม่ยอมให้มีการก่อสร้างโรงกำจัดขยะในจุดนี้เพราะไม่เหมาะสม อีกทั้งอาจเกิดปัญหากระทบสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ตามมา ชาวบ้านจึงไม่ยินยอม
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพร้อมทำการรังวัดที่ดิน ว่าขอบเขตอยู่จุดใด และจากการตรวจสอบด้วยสายตาพบว่ามีเนินดินอยู่ 2 เนินตามคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในพื้นที่ว่าเป็นวัดโบราณเก่าแก่ หลังจากวันนี้จะได้นำข้อมูลที่ได้ไปเสนอต่ออธิบดีกรมศิลปากร เพื่อทำเรื่องขอขุดค้นเพื่อตรวจสอบโดยเร็ว ส่วนในวันที่จะลงพื้นที่ขุดค้นหาโบราณสถาน หรือโบราณวัตถุนั้น คงต้องขอความร่วมมือจากผู้สูงอายุในพื้นที่ ให้ช่วยมาชี้จุดที่มั่นใจว่าเคยพบแนวรั้วของวัดสามวิหาร โดยทางสำนักศิลปากรที่ 6 จะไม่ขุดค้นทั้งหมด จะใช้วิธีเจาะเป็นบางส่วนเพื่อหาแนวรั้ว หากพบก็จะขยายหาขอบเขตของโบราณสถานต่อไปโดยตลอดการขุดค้นนั้นจะใช้แรงงานคนเพียงอย่างเดียว ขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่เสียหาย และหากพบว่าพื้นที่บริเวณสามวิหารเป็นวัด หรือโบราณสถานมาก่อนจริง ก็จะมี พระราชบัญญัติที่มีกฎหมายคุ้มครอง จะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าวัดหรือโบราณสถานนั้นๆ จะได้รับการขึ้นทะเบียนหรือไม่ก็ตาม.
…………………………………………………………………………………………………………