วันที่ 4 สิงหาคม 2558 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พา นายซีมอน โรเด็ด เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เดินทางไปวัดสะพานสาม ต.อรัญญิก อ.เมือง พิษณุโลก เพื่อเยี่ยมชม”English for all”ซึ่งเป็นโรงเรียนวัด มีลูกชาวไร่ ชาวนาเรียน ถือเป็นเด็กด้อยโอกาสการเรียนด้านภาษาต่างประเทศ ต่อมา ส.ส.ในพื้นที่จัดหาครูภาษาอังกฤษมาสอนตั้งแต่เด็กอนุบาลต่อเนื่องชั้นประถม 1 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนเด็กมีความเข้าและเข้าถึงภาษาอังกฤษ
จากนั้นเดินทางต่อไปดูผลการทดลองแปลงสาธิตระบบน้ำหยด แก้ปัญหาภัยแล้ง โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัท Netafim ซึ่งเป็นบริษัทลักษณะเหมือนกับรัฐวิสาหกิจของประเทศอิสราเอล ผู้เชี่ยวชาญการจัดการน้ำระบบหยด ตรวจผลแปลงสาธิต แปลงไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านบึงกอก เปรียบเทียบระบบสูบน้ำลงท่อขนาดใหญ่รดน้ำร่องแปลง ซึ่งถือว่าเป็นการปลูกดั้งเดิม กับ ระบบน้ำหยด
นายกรณ์ จาติกวณิช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ตนได้ไปดูงานอิสราเอลและพบว่า พืชผลการเกษตรทุกชนิดใช้วิธีระบบน้ำหยด ผลผลิตดีเกินคาดโดยไม่ได้ใช้น้ำมาก ซึ่งประเทศไทยกำลังประสพกับปัญหาภัยแล้ง แต่ทำไม คนไทยปลูกพืชแบบคอยน้ำฝนไปเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของ แปลงสาธิตมันสำปะหลัง ผลจากระบบน้ำหยดลงไปที่โค่นต้นมันสำปะหลัง สามารถลดการใช้น้ำถึงร้อยละ 70 อีกครั้งให้ปุ๋ยโดยตรงทางระบบน้ำหยด ลดการสูญเสียถึงร้อยละ 50 จากวิธีดั้งเดิมคือ หว่านปุ๋ย อีกทั้งไม่มีวัชพืชโดยรอบ เกษตรกรทำหน้าที่เพียงเปิด ปิดวาล์วน้ำ หลังติดตั้งระบบท่อเรียบร้อยแล้ว
ปัญหาต่อไป คือ เกษตรกรจะต้องลงทุน รัฐบาลต่อๆไป ควรสนับสนุนชาวไร่ให้เข้าแหล่งทุนกับธนาคาร เพราะปลูกมันสัมปะหลังปีแรกก็มีกำไรแล้ว ดีกว่ารัฐไปแจกจ่ายอย่างอื่น เนื่องจากผลผลิตน้ำหยดจะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-50 แปลงสาธิตมันสำปะหลังนี้ แค่ทดลอง ระบบน้ำหยดยังสามารถใช้ ไร่ข้าวโพด กล้วยฯลฯ
ส่วนคำถามที่ว่า ระบบน้ำหยด จะต้องบรรจุอยู่ในนโยบายพรรคฯแน่นอน นายกรณ์ ตอบว่า ต่อไปรัฐจะไม่แจกของฟรี ควรส่งเสริมให้เกษตรกรทุกประเภทให้เข้าถึงระบบน้ำหยด เพิ่มรายได้และเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุน
ส่วนจะแนะนำให้ รัฐบาล คสช.ชุดนี้ หรือไม่นั้น นายกรณ์ บอกว่า หากติดตามงานของพรรค จะทราบดีว่า เป็นโครงการที่เปิด สามารถหยิบนำไปใช้ได้ และจะเป็นผลดีแก่เกษตรกรโดยตรง
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า ประเทศไทยน้ำเยอะ แต่ไม่มีการจัดการที่ดี ล่าสุดมีความร่วมมือจากบริษัทที่อิสราเอล ลงไปทดสอบกับแปลงไร่มันสำปะหลังเกษตรกรที่ อ.บางระกำ มักประสพกับวิกฤติภัยแล้ง กระทั่งนำระบบน้ำหยดไปใช้ พบว่า ช่วยประหยัดน้ำร่วมๆ 3 เท่า เชื่อว่า อนาคตเกษตรกรไทยอาจต้องเปลี่ยนหรือปฎิวัติเกษตรกรรม
นางเพิ้ง อิทธิญา 17/4 หมู่ 1 ต.บึงกอก องบางระกำ พิษณุโลก กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนฟรีในแปลงสาธิติไร่มันสำปะหลังด้วยระบบน้ำหยด ซึ่งปกติก็ปลูกมันสำปะหลังทุกปี พบว่า ระบบเดิมท่อรดน้ำ ใช้ปริมาณน้ำมาก ปล่อยน้ำลงแปลง 20 ไร่ใช้เวลา 6 ชั่วโมงถึงเต็มแปลง แต่ระบบน้ำหยดใช่น้ำเพียง 2 ชั่วโมง ปีที่ผ่านมาเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลัง 7 ตันต่อไร่ ส่วนผลผลิตระบบน้ำหยดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11-12 ตันต่อไร่ เนื่องจากมีน้ำหล่อเลี้ยงต่อเนื่องสม่ำเสมอ และง่ายกว่า ไม่ต้องเสียน้ำมันไปสูบน้ำมาใช้รดแปลงไร่มันสำปะหลังจำนวนมาก ถือว่า ลดต้นทุน ล่าสุดมีชาวบ้านทั้งอำเภอบางระกำขอดูระบบน้ำหยดดูทุกวัน ตนก็บอกว่าดี เพียงแต่จะต้องลงทุนซื้อท่อพีซีเดินทั่วแปลง 20 ไร่ ร่วม 7 หมื่นบาท แต่ถ้าเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ มั่นใจว่า คุ้ม เพราะปีที่ผ่านมา ปลูกมันสำปะหลังด้วยวิธีดั้งเดิมก็ได้เงินกว่า 3 แสนบาท