เกษตรกรอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เร่งดูแลและตัดตัดดอกซัมเม่อร์ หลังมีออร์เดอร์สั่งซื้อเพื่อจำหน่ายช่วงเทศกาลเข้าพรรษามาก ส่วนดอกบัวมีน้อยเพราะแล้งมานาน
ที่หมู่ 4 บ้านพรหมพิราม ตำบลพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ชาวสวนดอกไม้กำลังดูแลสวนประเภทดอกซัมเม่อร์สีเหลือง และสีขาว ที่กำลังเจริญเติบโต หลังจากเริ่มมีน้ำฝนตกลงมาบ้าง พร้อม ๆ กับการตัดดอกซัมเม่อร์ในแปลงที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง เพื่อส่งจำหน่ายช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพราะดอกซัมเม่อร์นี้ พุทธศาสนิกชนนิยมนำไปไหว้พระ พร้อม ๆ กับดอกบัว แต่ปีนี้เกษตรกรที่ปลูกดอกบัวประสบความแห้งแล้ง มีผลผลิตน้อยมาก จึงเป็นโอกาสของดอกซัมเม่อร์ ที่เป็นดอกไม้ใช้น้ำน้อย ต้องออกสู่ตลาดทดแทน
นาง จำเนียร คำอินทร์ อายุ 49 ปี เจ้าของแปลงดอกไม้ซัมเม่อร์ กล่าวว่า ตนเองมีเนื้อที่ปลูกมีเพียงแค่ 2 ไร่ ได้ประสบภัยแล้งมานานแล้ว ตั้งแต่เดือน 3 หรือเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นมา แต่ช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้น้ำฝนมาช่วยบ้าง และได้น้ำจากบึงหนองหารในพื้นที่บ้าง ตอนนี้ต้นซัมเม่อร์ต้นเล็ก ๆ หรือต้นที่กำลังอนุบาลกำลังเจริญเติบโต แตกกอเยอะมาก แต่ก็ยังประสบปัญหาหนอนระบาด ส่วนแปลงเดิมที่ได้น้ำกลับออกดอกบานสะพรั่งพอดีในช่วงเข้าพรรษา พอดีที่ตลาดกำลังต้องการ ได้นำไปส่งขายในตัวเมืองพิษณุโลก เพื่อขายเอง และรับไปขายต่อบ้าง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เมื่อก่อนตนเองทำนา เมื่อเริ่มประสบปัญหาแล้งมา 2 ปี ติด ๆ กัน จึงแบ่งพื้นที่บางส่วนปลูกดอกไม้ซัมเม่อร์ขายแทน โดยสั่งซื้อพันธุ์มาครั้งเดียว จากนั้นก็สามารถขยายพันธุ์ได้เอง ซึ่งการลงทุนต่ำกว่าการทำนาถึง 50 % และยังสามารถตัดไปขายได้ราคาดีกว่าขายข้าว ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมต่อ 3 – 4 วัน โดยส่งขายกิโลกรัมละ 80 บาท ส่วนใหญ่เกษตรกรก็พอใจในราคาขายนี้ เพราะสามารถตัดได้ครั้งหนึ่งประมาณ 2 – 3 เดือน ถึงจะปลูกใหม่ และช่วงนี้ก็ได้ลงต้นเบญจมาศเสริมไว้ด้วย เนื่องจากเป็นพืชปลูกง่าย ใช้น้ำน้อย ดอกเบญจมาศนั้นจะออกดอกมากประมาณช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม และเป็นช่วงที่ราคาดอกไม้จะดี คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มมากกว่านี้อีก
ขอบคุณภาพข่าวจากคุณสุรเชษฐ์ มากร