เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 ก.ค. 2558 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 บก.ภ.จว.พิษณุโลก รับแจ้งจาก ด.ต.พุทธิวัฒน์ พิพัฒน์ทิธนา ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองพิษณุโลก ว่ามีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน ฌภ-3767 กทม. ขับขี่หลบหนีการตรวจค้น ที่บริเวณถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ติดตามไปในเส้นทางที่รถยนต์ต้องสงสัยใช้หลบหนี โดยรถคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนแผงรั้วกั้นหน้าประตูทางเข้าค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก และพุ่งชนสิ่งกีดขวางภายในค่ายอีกหลายอัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไล่ติดตามมาทันชายทั้ง 2 คน รถพังยับเยิน ไปจนมุมบริเวณด้านหลังบ้านพักทหาร และผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้แยกย้ายกันหลบหนีไป
จนเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังกันค้นหาและสามารถจับกุมตัวนายสามารถได้ พร้อมกระเป๋าซึ่งภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)จำนวน 26 เม็ด ยาไอซ์ 0.7 กรัม อาวุธปืน .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวน 56 นัด และโทรศัพท์มือถืออีก 6 เครื่อง ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายคือนายวัชรฯ ได้ปีนรั้วหลบหนีเข้ามาในบ้านเช่าของนายมานะ มุกสะวรรณ เลขที่ 993/1 ซ.ชนโค 11 ถ.พิชัยสงคราม ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก และวิ่งหนีหายไป โดยเจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ ทำการปิดล้อมตรวจค้น อยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงแต่ยังไร้วี่แววอยู่ภายในรถได้จอดรถพร้อมวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ จำนวน 1 รายขณะทำทีนั่งกินไส้กรอกอยู่ข้างร้านค้าทราบชื่อต่อมาคือ นายสามารถ ทองพ่วง อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่ 6 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
ผลการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายสีดำที่ถูกโยนทิ้งขณะพากันวิ่งหลบหนีพบยาบ้า จำนวน 26 เม็ด ยาไอซ์ 0.7 กรัม อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 56 นัด อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด นอกจากนี้ยังพบอีกว่ารถคันดังกล่าวติดป้ายทะเบียนปลอม เบื้องต้นนายสามารถให้การว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายวัชร ตะสุข อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 5/3 หมู่ 1 ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และวิ่งหลบหนีฝ่าวงล้อมไปได้
พ.ต.อ.นิคม สภาพพร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้เปิด “ยุทธการกวาดล้างฟ้าสางที่สองแคว” จนสามารถตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด และอาวุธปืนได้หลายราย นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกระจายกำลังตรวจค้นตามจุดเสี่ยงต่างๆ จนมาพบรถเก๋งคันดังกล่าวซึ่งมีลักษณะแต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้ทำการขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวได้พยายามขับรถหลบหนีและแหกด่านทหารเข้าไปในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสนธิกำลังกับทหารไล่ล่าตัวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนนายวัชรฯ ผู้ต้องหาอีก 1 หลายที่หลบหนี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกระจายกำลังเฝ้าและค้นหาอย่างต่อเนื่องบริเวณ ถ.พิชัยสงคราม-ซอยชนโคต่างๆ คาดว่าจะได้ตัวในไม่ช้า เนื่องจาก นายวัชรฯ เป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติดจากศาลกรุงเทพใต้
และจะได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถและอาวุธปืน ที่สามารถตรวจยึดมาได้ว่ามีผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง และผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนำรถคันดังกล่าวมาอย่างไร เพราะจากการตรวจสอบในเบื้องต้นกับสำนักงานขนส่ง เลขตัวถังรถเก๋งและหมายเลขทะเบียนไม่ตรงกัน คาดว่าจะถูกขโมยมา และจะติดตามจับกุมนายวัชรฯเพื่อขยายผลต่อไป