วันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ขณะนี้แนวโน้มเริ่มดีขึ้นจากฝนที่ตกชุกอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ในเขตอ.นครไทย อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้น้ำที่ไหลจากลำน้ำภาค ลำน้ำแควน้อย ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสองวันนี้เริ่มมีกำไรจากการกักเก็บน้ำไว้ในอ่างได้แล้ว โดยวันที่ 15 กค.58 มีน้ำไหลเข้า 1.9 ล้านลบ.ม.ขณะที่วันที่ 16 กค.ที่ผ่านมามีน้ำไหลเข้าอ่าง 2.99 ล้านลบ.ม. น้ำเข้าอ่างมากกว่าระบายออกแล้วโดยล่าสุดยังคงระบายออกวันละ 1.7 ล้านลบ.ม. ขณะนี้มีปริมาณน้ำใช้การได้ 55.84 ล้านลบ.ม.หรือคิดเป็น 5.95 %
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย บ้านแก่งคันนา ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เป็นช่วงลำน้ำก่อนที่จะไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนแควน้อยปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นและไหลแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากสัปดาห์ก่อนสภาพลำน้ำยังค่อนข้างไหลนิ่ง เป็นสัญญาณบวกต่อการเติมน้ำในเขื่อนแควน้อย
ที่ศูนย์ประสานแผนองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำเภอวัดโบสถ์ นายชยกร โชควรพัชร์ นายอำเภอวัดโบสถ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร ได้ร่วมกันชี้แจงเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบลดการระบายน้ำ 4 เขื่อนหลักเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภคและบริโภค มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 16 กรกฎาคม จนถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยขอร้องเกษตรกรหยุดการสูบน้ำทำการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรทราบถึงแนวนโยบายดังกล่าว จึงได้ประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ หรับในพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากน้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนนั้น ขณะนี้มีการทำนามากกว่า 140,000 ไร่ ผลผลิตกำลังเจริญงอกงาม ทางเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนยังคงปล่อยน้ำตามปกติ 1.7 ล้าน ลบ.ม โดยขอความร่วมมือเกษตรกรงดการสูบน้ำในพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ อ.พรหมพิรามและเมืองพิษณุโลกบางส่วน เพื่อให้มีน้ำเหลือใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ส่วนพื้นที่ที่กำหนดให้สูบน้ำได้เพื่อการเกษตรได้ ขอให้สูบน้ำพียงพอเลี้ยงผลผลิตให้งอกงามเท่านั้น ไม่ให้สูบน้ำเก็บกักไว้แต่อย่างใด
นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ. วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางชลประทาน ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรในการลดการสูบน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เป็นหลัก รองลงมาเป็นการผลักดันน้ำเค็ม และการเกษตรเป็นลำดับสุดท้าย ช่วงนี้เกษตรกรเฉพาะในพื้นที่เขื่อนแควน้อยฯ ยังสามารถสูบน้ำได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนด ส่วนนอกพื้นที่ขอความร่วมมืองดสูบน้ำโดยเด็ดขาด รวมถึงสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สูบน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรต้องงดโดยเด็ดขาด แต่สำหรับสถานีสูบน้ำประปายังสามารถสูบน้ำได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในการชี้แจงมีเกษตรกรบางรายมีความกังวลว่าผลผลิตที่ลงไปอาจได้รับความเสียหาย ขณะที่หน่วยงานด้านการเกษตร ขอให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงโค กระบือ รวมถึงปลูกข้าวโพดและถั่วเหลือง ถั่วเขียว ซึ่งทางสำนักงานเกษตรอำเภอมีเมล็ดพันธุ์แจกฟรีเพื่อลดพื้นที่การทำนาที่ใช้น้ำปริมาณมาก