เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 58 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ศปป.4 กอ.รมน. , ทสจ.เลย, นายวีระศักดิ์ ประสานศรี ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า สน.จทป.6 (อด.) , นายภูริวัฒน์ โชตินพรัตน์ ป้องกัน จ.เลย, พ.ท.สรณ์ศิริ พลเขตต์ ฝอ.3 จทบ.ล.ย. ได้บูรณาการ และสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กกล.รส.จทบ.ล.ย., ชุดพยัคฆ์ไพร(ชคร.ที่ 5) กรมป่าไม้,สน.จทป.6(อุดรธานี), ทสจ.เลย, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.4 (โคกงาม), ลย.5(ท่าลี่), ลย.7(ภูเรือ), ลย.8(ห้วยกระทิง), ลย.9 (นาแห้ว), ลย.20(แก่งม่วง), พล.3(หนองกระท้าว), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, กอ.รมน.จังหวัด ล.ย., ฉก.กรม ทพ.21 และร้อย.ตชด. 247 รวมประมาณ 150 นาย ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ซึ่งถูกนายทุนบุกรุก พื้นที่บริเวณต้นแม่น้ำป่าสัก รอยต่อ 3 จังหวัด มีพิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเนินเพิ่ม และป่าสงวนฯ ป่าแดงและป่าชาติตระการ ในท้องที่ ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จำนวน 2 แปลง ประมาณ 3,000 กว่าไร่ และพื้นที่ ป่าสงวนฯ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ ในท้องที่ ต.กกสะทอน และ ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย จำนวน 4 แปลง ประมาณ 5,000 กว่าไร่ ซึ่งพื้นที่ถูกบุกรุกดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าโซนซี รวมพื้นที่ตรวจยึดทั้งหมด 6 แปลง ประมาณ 8,300 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถไถล้อยาง 4 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน, รถกระบะบรรทุกยี่ห้อโตโยต้าแบบแคป 1 คัน และ เครื่องตัดหญ้า 3 เครื่อง
โดยพื้นที่ จ.เลย ตรวจยึดพื้นที่ 500 ไร่ อายุยางพารา ประมาณ 8 – 9 ปี ผู้กระทำผิดวิ่งหลบหนีไปได้ ตรวจยึดรถไถนา 2 คัน , รถจักรยานยนต์ 2 คัน, รถกระบะโตโยต้า 1คัน, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง และบัญชีการจ่ายค่าแรง 1 เล่ม และแปลงที่ 2 พื้นที่ตรวจยึดประมาณ 900 ไร่ อายุยางพารา ประมาณ 8 – 9 ปี พร้อมที่พักคนงาน 2 หลัง และบ้านพักอาศัย 1 หลัง สามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ยึดของกลางเป็นเครื่องตัดหญ้าแบบสะพาย 3 เครื่อง ตรวจสอบหมายเลขมิเตอร์ไฟฟ้า 2 เครื่อง ส่วนแปลงที่ 3 พื้นที่ตรวจยึดประมาณ 3,000 ไร่อายุยางประมาณ 2 – 6 ปี ตรวจยึดบ้านพักคนงาน 2 หลัง พบคนงาน 2 คนให้การว่าเป็นของนายทุนจากภาคใต้ สำหรับแปลงที่ 4 พื้นที่ตรวจยึดประมาณ 700 ไร่ อายุยางประมาณ 2 – 8 ปีไม่พบบ้านพัก สิ่งปลูกสร้าง
สำหรับพื้นที่ จ.พิษณุโลก ตรวจยึดพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ อายุยางพารา ประมาณ 2 – 3 ปี ตรวจยึดบ้านพักอาศัย 1 หลัง แปลงที่ 2 พื้นที่ตรวจยึด ประมาณ 2,900 ไร่ อายุยางพาราประมาณ 2 – 6 ปี และปาล์มน้ำมันอายุ 2 – 3 ปี ตรวจยึดบ้านพักคนงาน 4 หลังและบ้านพักอาศัย 1 หลัง ของกลาง รถไถล้อยาง 2 คัน ควบคุมคนงาน 2 คน ให้การเป็นของนายทุนจากกรุงเทพฯ และ จ.สุราษฎร์ธานี
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการสอบสวนและติดตามนายทุนผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป