สละสิทธิ์ไม่เรียนพยาบาลมน.ห้ามคลุมฮิญาบในภาคปฏิบัติ

unnamed (1)วันที่ 11 กรกฎาคม  2558 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามกระแสทางโซเซียลหลังมีการออกมาโพสต์ข้อความ ถูกมหาวิทยาลัยใน จ.พิษณุโลก  ห้ามนิสิตพยาบาล ที่นับถือศาสนาอิสลาม สวมฮิญาบในการฝึกภาคปฏิบัติ โดยส่วนใหญ่ได้แชร์โพสต์จาก  มีเฟชบุ๊ค  https://www.facebook.com/SaWSuengmee ได้ขึ้นข้อความพร้อมโพสต์ เอกสารบันทึกข้อความ ระบุการคืนเงินค่าหอพักให้นิสิต  คณะพยาบาล  สาเหตุเพราะว่า “คลุมฮิญาบห้ามเรียน”  จึงต้องการเป็นบรรทัดฐานในการแอ๊ดมิชั่น ว่าสถาบันใดห้ามคลุมฮิญาบให้ระบุให้ชัดเจน  เพื่อเด็กจะได้ไม่เสียโอกาสในการเรียนต่อในสถานบันนั้นๆ    ด้านพี่สาว ออกมาระบุว่าครอบครัวเสียความรู้สึก การถอดฮิญาบไม่สามารถทำได้เพราะเป็นบาป จึงตัดสินใจไม่เรียนต่อหลังทางคณะพยาบาลระบุชัดอนุญาตเพียงปี1  แต่ในภาคปฏิบัติต้องถอดฮิญาบออกไม่สามารถสวมใส่ได้

2

น.ส.อภิญญา กุระคาน  หรือ ซึมมี  ผู้โพสต์ข้อความและภาพทางเฟซบุ๊ค เปิดเผยว่า ตนเป็นพี่สาว น.ส.จริยา  กุระคาน ที่ผ่านการสอบคัดเลือกหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัญฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2558 และได้รายงานตัวแล้วเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา  แต่หลังจากวันงานตัวปรากฏว่าทางคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์  ได้เรียกนักเรียนพร้อมผู้ปกครอง มาชี้แจงข้อปฏิบัติของคณะพยาบาลว่าในช่วงปี 1 เรียนทฤษฏีอนุญาตให้นิสิตสวมฮิญาบคลุมศรีษะได้  แต่ในช่วง ปี 2-4   ในภาคปฏิบัติ จะต้องมีการถอดฮิญาบออก ซึ่งน้องสาวไม่สามารถถอดผ้าคลุมได้ เพราะเป็นกฏศาสนาถ้าไม่คลุมก็บาป  อีกทั้งสถาบันหลายแห่ง เช่นที่ตนเองเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ไม่มีกฏระเบียบห้าม อีกทั้งกฏหมายที่อนุญาตให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามสามารถคลุมฮิญาบได้ ยอมรับว่าครอบครัวเสียความรู้สึก โดยเฉพาะหนังสือบันทึกข้อความ ที่ระบุว่า “เนื่องจากนิสิตนับถือศาสนาอิสลามจะต้องโพกผ้าคลุมศรีษะตลอดเวลา ไม่สามารถถอดผ้าคลุมออกได้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต ในช่วงการฝึกปฏิบัติ ที่นิสิตจะต้องสวมเครื่องแบบปฏิบัติ เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาล ” แม้ว่าทางคณบดีบอกว่าจะช่วยให้ได้คณะที่ต่ำเพื่อให้ได้เรียนต่อ แต่ทางน้องสาวก็คงไม่เรียนต่อแล้ว  แต่จะลองสอบใหม่ที่เปิดโอกาสให้รอบที่ 2 หรือไม่ก็จะหยุดเรียนในปีนี้ แล้วไปสอบใหม่ปีหน้าซึ่งจะเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามตน97987

 

น.ส.อภิญญา กล่าวอีกว่าเรื่องราวดังกล่าว มีผลให้สภาพจิตใจของน้องสาวบอบช้ำ และสูญเสียกำลังใจเป็นอย่างมากอีกทั้งเป็นการลิดรอนสิทธิอย่างไม่เป็นธรรม  อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างในการรับนิสิตพยาบาลรุ่นต่อไป กรณีชาวมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม  ที่ต้องคลุมฮิญาบ เด็กจะได้ไม่เสียโอกาส เป็นการทำผิดกฏหมายได้ขอให้ทางกรมศาสนาดำเนินการอย่างจริงจังให้เป็นตัวอย่าง

 

รศ.ดร.พูลสุข  หิงคานนท์  คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า กรณีที่มีการเผยแพร่กรณีน.ส.จริยา  กุระคาน ที่ผ่านการสอบคัดเลือกหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัญฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2558 ซึ่ง เข้าสอบสัมภาษณ์ผ่านระบบกลาง(Admission) และได้มารายงานตัว ตนขอชี้แจงว่า ได้เรียกมาคุยชี้แจงในเรื่องการโพกผ้า ว่าช่วงเรียนปกติสามารถโพกผ้าได้แต่ช่วงเรียนภาคปฏิบัตินั้นต้องใส่แบบฟอร์มพยาบาล ซึ่งทางคณะได้มีการประชุมระหว่างบิดา นิสิตและผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามที่พิษณุโลก เพราะในการปฏิบัติอาจไม่สะดวกขณะปฏิบัติงานอาชีพพยาบาล หลังจากพูดคุยเด็กได้กลับไปและได้แจ้งขอลาออก ทางสถาบันก็คืนเงินให้ ก็ไม่เข้าใจว่า มีการตกลงเรียบร้อย แต่ก็มาเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ที่ผ่านมาทางคณะพยาบาลมีนิสิตอิสลามมาเรียนและจบไปแล้วกับเรา 3 คน ทั้งหมดยอมปฏิบัติตาม  เราไม่ได้กีดกัน เพราะพยาบาลขาดแคลน เราสนับสนุนนิสิตให้เรียนทุกคน สิ่งที่เราต้องพูดคุยก่อนเพื่อให้เด็กทำตามระเบียบเท่านั้น ////

แสดงความคิดเห็น