เรียกผอ.เครือข่ายนสพ.ตำรวจพลเมืองแจงยังหาสมาชิกอีกมีความผิด

152762ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานอัยการภาค 6 เรียกผู้อำนวยการเครือข่ายหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองเข้าชี้แจงถึงฐานความผิด พร้อมยืนยันหากใครต้องการการออกจากการเป็นสมาชิกและขอรับเงินคืนให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ152763

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ที่ห้องประชุมกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายนพรัตน์ นาคประเสริฐ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการภาค 6 ได้เรียกผู้อำนวยการศูนย์ หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 59 ราย เข้าประชุมชี้แจงกรณี การกระทำความผิดของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองที่มิชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ในการสร้างเครือข่ายเก็บเงินประชาชน ในลักษณะฌาปนกิจสงเคราะห์ ถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน152765

พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกผู้อำนวยการศูนย์ของ หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองเข้าชี้แจงทำความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน โดยยืนยันว่า การกระทำของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวผิดกฎหมาย โดยผู้ที่สมัครเป็นหัวหน้าศูนย์ต้องชำระเงินถึง 20,000 บาท เพื่อสร้างเครือข่าย พร้อมด้วยค่าสมัครสมาชิกอีกจำนวน 1,500 บาท และต้องดำเนินการหาลูกข่ายคล้ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งนับได้ว่าผิดกฎหมาย

โดยในวันนี้สำหรับผู้อำนวยการศูนย์ที่มีความประสงค์จะขอถอนรายชื่อออกจากการเป็นสมาชิกเครือข่าย หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง พร้อมกับขอรับเงินจำนวน 21,500 บาทคืน ให้ทำเรื่องยื่นได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหากใครที่สามารถให้ข้อมูล เส้นทางการเงิน หรือให้การอันเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับได้ว่าเป็นผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถือว่าไม่มีความผิดและจะกันไว้เป็นพยาน แต่สำหรับใครที่ยังดื้อดึง ไม่ยอมหยุดหาลูกข่ายนับได้ว่ามีความผิดในฐานฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน ปกปิดข้อเท็จจริง ซึ่งก็จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด152767

นางลำพูล ธูปเทียน อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.2 ต.บึงกอก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในผู้อำนวยการศูนย์ฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นสมาชิกของ หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง มาเกือบ 6 เดือนแล้ว โดยจ่ายเงินค่าสมัครเป็นผู้อำนวยการ และค่าสมัครเป็นสมาชิก รวมเป็นเงิน 21,500 บาท โดยมีลูกข่ายจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นลูกหลานในครอบครัว เพราะหลงเชื่อว่าถ้าหากมีสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินนับแสนบาท แต่พอมาวันนี้ได้รับฟังการชี้แจงจากหน่วยงานก็ยืนยันว่าจะขอลาออกจากการเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และจะขอรับเงินคืน เพราะตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์

แสดงความคิดเห็น