เสี่ยงโขลกครกไม้ กลางหมู่บ้านบ้านนา หมู่ 12 ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ได้ดังขึ้นเป็นจังหวะ ไปพร้อมๆ กับเสียงคุยของหญิงสาว 4-5 คน ที่กำลังสนุกสนาน ทำให้เราอดไม่ได้ต้องเดินเข้าไปดูว่าเขาทำไรกัน แต่เมื่อไปดูก็พบว่าป้าสาลี ป้าเป้า ป้าเรือน สาวดวล พี่พัฒน์ และแม่ผม กำลังช่วยกันตำแป้งหมัก ในครกไม้ กันอย่างขะมักเขม้น เพื่อนำไปทำแป้งจี้ และขนมเส้น หรือขนมจีน นั่นเอง พวกเขาใช้เวลาไม่นาน ในการโขลกแป้ง ก็ได้ที่ แป้งเริ่มเหนียว จากนั้นป้าสาลี ก็นำมาแป้งขึ้นมาจากครกไม้ แล้วมานวดแป้งอีกครั้งในอ่าง ที่เตรียมไว้ ไม่นานนัก ก็สามารถนำแป้งไปปิ้ง หรือ หลายคนเรียกว่าแป้งจี่ นั่นเอง โดยมีใบตองรองไว้กับตะแกรง เพื่อให้มีกลิ่นหอม
ป้าสาลี บอกว่า ในการทำแป้งจี่ และขนมจีน นั้น ส่วนใหญ่พี่น้องบ้านเรา จะนิยมทำกัน เมื่อยามว่างจากการทำนา ก็จะคุยตกลงกันทำขนมจีนและแป้งจี่กินกัน โดยเฉพาะในปีนี้ยังไม่มีใครได้เริ่มต้นทำนากันเลย เนื่องจากฝนไม่ตก น้ำจากชลประทาน ก็ยังไม่มา ป้าบอกผมว่า หมู่บ้านเราน่าเหนื่อยใจแต่ละปีน้ำจะมาทีหลัง เหมือนอยู่ปลายน้ำแล้ว แต่ยามว่าง ในช่วงนี้ ก็จะมักหาอะไรทำ แก้เครียด โดยเฉพาะการทำขนมนมเนย ของแม่บ้าน ส่วนพ่อบ้านก็จะเลี้ยงไก่ และในวันนี้ก็ได้ชักชวนกันทำขนนจีน และแป้งจี่ให้ลูกหลานกินกัน
การทำขนมจีน และแป้งจี่ นั้น ค่อนข้างมีใช้เวลานิดหนึ่งคือ ต้องแช่แป้ง หรือ หมักก่อน 2 วัน จากนั้นถึงจะนำมาตำหรือ โขลกในครกไม้ได้ หลังจากโขลกแป้งได้ที่ ถ้าจะทำแป้งจี่ ก็สามารถมาปิ้งได้เลย แต่จะทำขนมจีน ก็นำไปแช่น้ำร้อน บีบโรยเส้นในน้ำร้อน แล้วทิ้งไว้ จับเส้น ปัจจุบันขนมจีน หรือขนมเส้น มักใช้แป้งสด จะไม่อร่อยเท่าแป้งหมัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทำให้ลูกหลานกิน แต่สิ่งที่ชอบมากตอนช่วงเวลาทำขนมกัน ก็จะคุยกันสรวลเส เฮฮากันอย่างสนุกสนาน ไม่เครียดกับสภาวะเช่นกัน ผมว่าเป็นอีกบรรยากาศที่น่าสัมผัส กับชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ความรัก ความสามัคคีแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างชุมชนเข็มแข็ง ได้เป็นอย่างดี
//////