เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 19 มิถุนายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก มีชาวนาในพื้น ม.2-ม.5 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 20 คน เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกรณีนำข้าวไปขายให้กับโรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พรหมพิราม แต่ไม่ได้รับเงินเคยร้องไปยังหลายหน่วยงานก็ยังไม่สามารถบังคับให้จ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนาได้
นางนิยม หลวงอุดร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 379 ม.5 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน รวม 8 ราย ได้ทำการเก็บเกี่ยวข้าวและนำไปขายให้กับท่าข้าวนิเวศน์เจริญทรัพย์ ม.2 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยทางโรงสีได้รับซื้อข้าวของชาวนาไว้ และได้มีการนัดจ่ายเงินในเดือน พฤศจิกายน 2557 แต่ก็ผิดนัดตลอดมา รวมมูลค่ากว่า 840,000 บาท จนกระทั่งตนและชาวนารายอื่น ได้เข้าไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ ตนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาไกล่เกลี่ย ในวันที่ 21 ธันวาคม 2557 โดยมีตัวแทนจากโรงสีมาทำการไกล่เกลี่ยว่ายินยอมจ่ายเงินให้ชาวนา รายละ 1 หมื่นบาท ทุกสัปดาห์จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ค้างไว้ แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว ชาวนาก็ยังไม่ได้รับเงินจากทางโรงสีอีกเลย ตอนนี้ทุกคนเครียดมากเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายข้าวต้องนำไปลงทุนทำนาครั้งต่อไป และต้องนำไปใช้ ธกส.อีก พวกตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจึงเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลกดังกล่าว
นางนิยม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกว่า 40 ราย ที่ขายข้าวให้กับท่าข้าวนิเวศน์เจริญทรัพย์ แล้วยังไม่ได้เงินเช่นกัน จำนวนเงินไม่ต่ำกว่าล้านบาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าว เนื่องจากชาวนาต่างคนไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส.และหนี้ค่าปุ๋ย ค่ายา อีกทั้งเงินลงทุนในการทำนาครั้งใหม่ปีนี้ ยังไม่มีอีกด้วย
เบื้องต้นนางสิตางศ์ ตั้งศิริ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องไว้ และขั้นตอนต่อไปคือต้องเรียกท่าข้าวนิเวศน์เจริญทรัพย์มาเจรจาและประนอมหนี้ และจะจัดหาทนายความอาสาให้กับชาวนาเพื่อเป็นการบังคับคดีให้ทางท่าข้าวชำระเงินที่ค้างจ่ายกับชาวนา พร้อมดอกเบี้ยต่อไป
อย่างไรก็ตาม พิษณุโลกฮอตนิวส์ ได้รับการชี้แจงทางโทรศัพท์จากท่าข้าวนิเวศน์เจริญทรัพย์ ระบุว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนา ทางท่าข้าวเองก็ได้ไปพบและเจราจากับชาวนาทุกครั้งที่นัดไป หลายคนก็จ่ายเงินที่ติดค้างหมดแล้ว แต่ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ติดค้างอยู่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ขณะนี้อยู่ระหว่างหาเงินทุนมาชำระเงินที่เหลือให้กับชาวนา
//////////