ผบ.พล.ร.4 สั่งนสพ.ตำรวจพลเมืองยุติดำเนินการเมืองห้ามหาสมาชิกเพิ่ม

DSC_0171 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวบ 1 ในกรรมการบริหาร“หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง”กลางที่ประชุมชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก   ระหว่างที่ผู้บริหารฯชี้แจง ด้านผบ.พล.ร.4 ชี้ หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองดำเนินการมิชอบด้วยกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายเรื่องที่หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ดำเนินการกิจกรรมต่างๆโดยผิดกฎหมาย ห้ามทำการเปิดรับสมาชิกเพิ่ม ตราบใดที่ยังไม่การดำเนินการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย   DSC_0173

เวลา 13.00 น.วันที่ 9 มิถุนายน  2558  ที่ห้องประชุมพุทธ ชินราช ชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อเคลียร์ปัญหากรณีมีประชาชนร้องทุกข์การสมัครเข้าเป็นสมาชิกฌาปณกิจสงเคราะห์ ของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองว่าเป็นการหลอกลวง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนสืบสวนสะกดรอย (ดีเอสไอ) ได้จับกุม นาย มานพ เอี่ยมสะอาด หรือ ธนาเศรษฐ์เลิศ โกศัยชวกุล อายุ 46  ปี บ้านเลขที่ 79/4 หมู่ 3 คลองกะเชนทร์ อ.เมือง จังหวัดพิจิตร ตามหมายจับ2076/2557  ซึ่งเป็นหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หมายศาลอาญาฐานความผิดตาม พระราชกำหนด การกู้ยืม เงิน ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2537 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12 กฎหมายอาญา มาตรา 343 ความผิดไม่ดำเนินกิจการให้เป็นไปตามแผนการจ่ายค่าตอบแทนของตนตามพระราชบัญญัติการขายตรงและตลาดขายตรง พ.ศ.2545 มาตรา 241DSC_0151

โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ชุดนอกเครื่องแบบจำนวน 4 คนเดินเข้าไปที่ห้องประชุมพระพุทธชินราช ชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างที่นายนาย มานพ เอี่ยมสะอาด หรือ ธนาเศรษฐ์เลิศ โกศัยชวกุล ซึ่งเป็นหนึ่งใน ทีมบริหารหนังสือพิมพ์ตำรวจ พลเมือง พร้อมผู้บริหารระดับสูงผู้บริหาร”หนังสือพิมพ์ตำรวจ พลเมือง 3 คน ระหว่างประชุมร่วมกับนายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลกและนิติกรพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกDSC_0144

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ดีเอสไอ ได้พาตัวนายธนาเศรษฐ์เลิศ โกศัยชวกุล ออกมาจากห้องประชุม และชี้แจงถึงหมายจับ พร้อมแจงให้หาทนายตามขั้นตอน พร้อมใส่กุญแจมือ และนำตัวออกไปจากศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

ทาง จนท.ดีเอสไอ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การจับกุมตัวนายธนาเศรษฐ์เลิศ โกศัยชวกุล เนื่องจากมีหมายจับนำตัวสู่ชั้นศาล ไม่เกี่ยวข้องกับ กิจการ หนังสือพิมพ์ตำรวจ พลเมือง ที่กำลังประชุมอยู่DSC_0156

สำหรับการประชุมต่อไป เพื่อเคลียปัญหากรณีมีประชาชนร้องทุกข์การสมัครเข้าเป็นสมาชิกฌาปณกิจสงเคราะห์ ของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองว่าเป็นการหลอกลวงท่ามกลางสมาชิกกว่า 200 คนเดินทางมารับฟัง141408

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พลตรี นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ได้เดินทางมาเป็นประธานร่วมพิจารณาคำชี้แจงในเรื่องกรณีที่มีประชาชนร้องทุกข์ปัญหาสมัคร หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง กับ  นางสาวธิติยาพร  ธรรมชลทรัพย์ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง และผู้บริหารอีก 2 คน โดยทางพลตรีนพพร เรือนจันทร์  ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ได้ประชุมและสรุปปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า เนื่องจาก หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ได้แยกออกจากสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์เครือข่ายประชาชนเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2558 ดังนั้นไม่สามารถที่จะรับสมาชิกได้หรือดำเนินฌาปณกิจสงเคราะห์ หรือสวัสดิการใดๆได้เนื่องจากไม่ได้มีการดำเนินการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นขอให้ปฏิบัติตาม 4 ข้อ ต่อไป นี้ 1. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายเรื่องที่หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ดำเนินการกิจกรรมต่างๆโดยผิดกฎหมาย 2.ให้ทางหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองดำเนินการคืนเงินให้กับกลุ่มสมาชิกที่ประสงค์จะขอเงินค่าสมัครสมาชิกคืน หากว่ายังไม่สามารถคืนเงินได้ต้องมีการจ่ายดอกเบี้ยให้กับสมาชิก  3. ห้ามบุคคลสมาชิกเครือข่าย ตัวแทน หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองไปชักชวน ชักจูงให้เป็นสมาชิก 4.ห้ามทำการเปิดรับสมาชิกเพิ่ม ตราบใดที่ยังไม่การดำเนินการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย   DSC_0163

พลตรี นพพร กล่าวอีกว่า ถ้าหากทราบว่าหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองยังเปิดดำเนินการจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และขอประกาศว่า จังหวัดพิษณุโลก อุทัยธานี เชียงใหม่ ลำปาง พิจิตร กำแพงเพชร ต้องมีการยกเลิกการดำเนินการของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง และให้ทางดีเอสไอเข้าตรวจสอบและรับเป็นคดีพิเศษ พร้อมตรวจสอบเงิน 50 ล้านบาท ที่เบื้องต้นทางหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองได้เงินมาจากการเปิดรับสมาชิกเมื่อครั้งที่ยังอยู่กับสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์เครือข่ายประชาชนว่าเงินยังมีอยู่หรือถูกโยกย้ายไปไหน  ในส่วนชื่อและโลโก้หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองขอให้ยกเลิกการใช้เนื่องจากส่งผลต่อชื่อเสียงของตำรวจเพราะทางตำรวจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  พร้อมกันนี้ให้ส่งรายชื่อตัวแทนในแต่ละพื้นที่ให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบต่อไป

…………………………………………………………………

แสดงความคิดเห็น