ผบ.พล.ร.4 ประชุมร่วมกับส่วนราชการในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมผู้บริหารหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ที่จ.พิษณุโลก หลังมีผู้ร้องดำเนินการในรูปแบบสมาคมฌาปนกิจแต่ไม่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกม. ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบสวนว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ หากสมาชิกประสงค์ขอลาออกต้องคืนเงินค่าสมัคร ให้ทำเอกสารชี้แจงรายระเอียดการสมัครรับจ่ายยอดสมาชิก พร้อมนัดประชุมอีกรอบที่พิษณุโลกในอีก 7 วัน
เวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 58 ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 พร้อมปลัดจังหวัดพิษณุโลก พมจ.พิษณุโลก สารวัตรสันติบาลพิษณุโลก ตำรวจสภ.พรหมพิรามและพิษณุโลก พร้อมกับชาวบ้าน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลกที่ไปแจ้งความต่อสภ.พรหมพิราม หลังจากไปสมัครสมาชิกนสพ.ตำรวจพลเมือง ได้มีการประชุมร่วมกับผู้บริหาร”หนังสือพิมพ์ตำรวจ พลเมือง” โดยนายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นัดประชุมกับผู้บริหาร หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง เพื่อหาทางออก หลังจากชาวบ้านพรหมพิราม รวมตัวขึ้นโรงพัก แจ้งความลงบันทึกประจำวัน กรณี ถูกหลอกจ่ายเงินสมัคร “โครงการสวัสดิการเพื่อสมาชิกหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง”สูญเงินไปรายละ 1,500 บาท ทั้งที่ พมจ.ส่วนกลาง ยืนยันชัดเป็นสมาคมเถื่อน ไม่ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปณกิจอย่างถูกต้อง
ในการเริ่มต้นประชุมพมจ.พิษณุโลก ปลัดจังหวัด ตำรวจ ฯลฯ ได้ประชุมร่วมกับ นายวรวิทย์ ทานะมัย กรรมการบริหาร หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองพร้อมทีมงานกว่า 6-7 คน เพื่อหาข้อสรุป โดยนายวรวิทย์ ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า นสพ.ตำรวจพลเมืองได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 มีสมาชิกทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสมาชิก นักข่าวเสียชีวิตก็ช่วยเหลือกันตามกำลังที่มีอยู่ คนละร้อยสองร้อยก็ได้เงินไม่กี่หมื่น ต่อมาปี 2557 ได้มาร่วมกับสมาคมแห่งหนึ่ง ชื่อสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์พลังเครือข่ายประชาชน มีสมาชิกที่มาสมัครผ่านเครือข่ายผู้อำนวยการศูนย์ทั่วประเทศ สมัครค่าสมาชิก 1,500 บาท ( แบ่งเป็นค่าบริการ 950 บาท ค่าธรรมเนียม 50 บาท และค่าสงเคราะห์ศพ ศพละ 50 บาท เก็บล่วงหน้า 50 ศพ เป็นเงิน 500 บาท ) และสมาชิกก็มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นแสนคน แต่ปรากฏว่ามีปัญหาเรื่องการจดทะเบียน จึงแยกกันกับสมาคมฯ ในวันที่ 19 มกราคม 2558 ก็เริ่มมีปัญหา เพราะสมาชิกของนสพ.ตำรวจพลเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ประชุมก่อตั้งเป็นกองทุนสวัสดิการขึ้นมาก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หลังจากมีผู้ร้องเรียนไปที่พม. นสพ.ตำรวจพลเมืองก็พยายามดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ยื่นขอจดทะเบียนสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติออกมา และได้ยุติการรับสมัครสมาชิกทั่วประเทศชั่วคราวไปก่อน
ทั้งนี้ ในที่ประชุมทั้งส่วนราชการที่ร่วมประชุม ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ รวมถึงชาวบ้านอำเภอพรหมพิราม ที่สมัครเป็นสมาชิกและไปแจ้งความที่สภ.พหรมพิรามได้ซักถามในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจดทะเบียนสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์ ที่ต้องดำเนินการในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด กับนายทะเบียนท้องที่ ไม่สามารถเปิดสาขาได้ การขอลาออกเพื่อขอเงินคืน การโดนข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน หลังชาวบ้านไปแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งฝ่ายบริหารนสพ.ตำรวจพลเมืองก็ได้ชี้แจงว่า กำลังดำเนินการจดทะเบียน และจะดำเนินการทดทะเบียนทั่วประเทศ การประชุมใช้เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง ไม่สามารถสรุปแนวทางชัดเจนได้ กระทั่งพลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล ร. 4 ( กองพลทหารราบที่ 4 ) เดินทางมาและรับฟังปัญหา และสรุปแนวทาง
พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 กล่าวว่า เชื่อว่า ประชาชนที่หลงเชื่อ สมัครเป็นสมาชิก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังไม่รู้เรื่อง สมาชิกหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองชัดเจน รู้แต่ว่า ตายแล้วได้เงินก้อน การกระทำของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง อาจเข้าข่าย”พรบ.ประกันชีวิตกลุ่ม” ซึ่งกฎหมาย ห้ามไว้ ไม่ให้ทำ เว้นแต่ธุรกิจประชีวิต จะต้องไปตั้งบริษัทประกันให้ถูกต้อง ข้อสรุปของการประชุมวันนี้ คือ 1 ให้ดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายของการดำเนินงานของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองว่าด้วยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 2 หากประชาชนที่ได้หลงผิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีความประสงค์จะลาออกจากการเป็นสมาชิกและต้องการเงินคืนหากการดำเนินการของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองถูกต้องตามกฎหมายต้องคืนเงินเท่าจำนวนที่สมาชิกสมัคร แต่หากไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย 3 ห้ามบุคคลของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง ดำเนินการใดใดอันเป็นการคุกคาม ข่มขู่ ขู่เข็น ต่อประชาชน หากพบต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 4 หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองต้องจัดทำเอกสารเพื่อชี้แจงโครงสร้างการดำเนินงานวิธีการการเก็บ จ่ายเงิน เพราะบัญชีรายชื่อของสมาชิกในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก 5 ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองให้พนักงานสอบสวนจำนวน 1 ชุด พร้อมทั้งรายชื่อสมาชิกในเขตจังหวัดพิษณุโลก 1 ชุด 6 หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมืองต้องมาชี้แจงต่อหน้าที่ประชุมภายใน 7 วันนับจากนี้เป็นต้นไป พร้อมลงลายมือชื่อผู้เข้าร่วมประชุม