เซลล์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชาวพิจิตร ดื่มเหล้าฉลองเงินเดือนออกกับเพื่อนที่ร้านอาหารในเมืองพิษณุโลกถึงตีสาม เพื่อนมาส่งที่ห้องพัก เช้ามาผิดสังเกต ไม่ยอมไปทำงานพบกลายเป็นศพปริศนาน่าจะป่วยมีโรคประจำตัวโรคใดโรคหนึ่ง และดื่มสุราเข้าไปในปริมาณที่มาก ประกอบกับนั่งดื่มกินจนดึก อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและอาการของโรคกำเริบขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มิ.ย.2558 ร.ต.อ.หญิง กัลยาณี ท่าโพธิ์ ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตภายในหอพักแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.พิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องพักชั้นที่ 4 ภายในห้องพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายธนทัศน์ วีรวิกรม อายุ 28 ปี อาชีพเซลล์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อยู่บ้านเลขที่ 305 ถ.ริมน่าน ต.ตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงที่นอน สวมเสื้อลายสก๊อตแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ตามเนื้อตัวเริ่มซีดขาว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าวไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ หรือการถูกทำร้ายร่างกาย พบเพียงขวดสุราที่ถูกเปิดดื่มกินไปแล้วเหลือติดอยู่ก้นขวด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นายปณวัตร สุธน เพื่อนผู้เสียชีวิต ให้การว่า ช่วงค่ำของเมื่อวันที่ผ่านมา 31 พ.ค. นายธนทัศน์ ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยตนเองและเพื่อน ๆ ได้ชักชวนกันไปกินอาหารและดื่มสุรากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก เพื่อเลี้ยงฉลองวันเงินเดือนออก โดยนั่งดื่มสุรากันจนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันนี้ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับที่พัก โดยตนเองเป็นผู้มาส่งนายธนทัศน์ที่ห้องพัก ซึ่งปกติก็พักอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อคืนตนเองได้ขอแยกไปนอนกับแฟนสาว จนถึงช่วงเช้าเห็นว่าเลยเวลาทำงานมานานแล้ว แต่นายธนทัศน์ยังไม่มาทำงาน จึงได้มาตามที่ห้องพักก็พบว่านายธนทัศน์นอนเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานคาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะป่วยมีโรคประจำตัวโรคใดโรคหนึ่ง และดื่มสุราเข้าไปในปริมาณที่มาก ประกอบกับนั่งดื่มกินจนดึก อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและอาการของโรคกำเริบขึ้น โดยจะส่งศพของผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรพลิกศพที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะติดต่อให้ญาติมารับศพนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.