ชาวบ้านอ.วังทอง ฮือ ! ปะทะคารม จนท.ป่าไม้พิษณุโลก ระหว่างตัดโค่นสวนยางพาราต่อหน้าต่อตา ก่อนดีเดย์ตัดทิ้งสวนยางนายทุนรุกป่าสงวนฯป่าอนุรักษ์พร้อมกันทั่วประเทศ 1 มิย.นี้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านตอเรือ อ.วังทองพร้อมชาวบ้านสลด !! น้ำตาซึม ดูสวนยางถูกโค่นทิ้ง ขาดรายได้เลี้ยงชีพ ขณะที่ป่าไม้ยืนยันเป็นแปลงนายทุนรุกป่าสงวน
วันที่ 30 พฤษภาคม 2558 นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก สั่งการให้ 11 หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่พิษณุโลกประมาณ 100 นาย ตัดโค่นทิ้งจำนวน 287 ไร่ ที่ หมู่ 13 บ้านตอเรือ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ซึ่งเป็นการตัดโค่นสวนยางเพื่อทำเวที ก่อนดีเดย์ตัดต้นยางพาราทั่วประเทศพร้อมกันวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังตัดต้นยางพารา มีชาวบ้านตอเรือไม่ต่ำกว่า 30 คน นำโดยนายคำเงิน แก้วอินทิม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านตอเรือ ต.วังนกแอ่น พร้อมชาวบ้านมาร้องขอว่า อย่าตัดต้นยางพาราทิ้ง เป็นที่ดินของชาวบ้านทำกินมาก่อน ทำให้นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนัก 4 ต้องเข้าเจรจากับผู้ใหญ่บ้านอย่างดุเดือด และให้บุคคลที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดินหรือสวนยางพาราที่กำลังตัดโค่นมาแสดงตัว แต่ก็ไม่ปรากฏว่า มีใครกล้าแสดงตัว กระทั่งนายมานพและปลัดอำเภอวังทองร่วมชี้แจงจนชาวบ้านเข้าใจ ต่อมากำลังทหารช่าง ช.พัน 302 ค่ายบรมไตรโลกนารถซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่รีบเดินทางเข้ามาในสวนยางพาราทันที
กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ชาวบ้านเข้าใจพร้อมเก็บขี้ยางรวมกองเตรียมนำไปขาย ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุรุนแรง แต่สีหน้าชาวบ้านไม่ค่อยดีนัก บางรายน้ำตาซึม เนื่องจากชาวบ้านหลายราย เคยมีรายได้จากการรับจ้างกรีดยางพาราแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี แต่วันนี้ถูกตัดโค่นทิ้งต่อหน้าต่อตา
นายคำเงิน แก้วอินทิม ผญบ.หมู่ 13 กล่าวว่า ตนและชาวบ้านเข้ามาดูว่า จนท.ป่าไม้ทำอะไร มาตัดสวนยางพาราของชาวบ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวมาก่อน เพราะตนได้รับคำสั่งจากนายอำเภอวังทองให้ไปติดประกาศตัดโค่นต้นยางพาราอีกแปลงหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตัดอีกแปลงหนึ่ง ซึ่งแปลงที่ตัดโค่นวันนี้ ชาวบ้านรับจ้างกรีดยางอยู่ทุกวัน ยอมรับว่า ชาวบ้านเดือดร้อนและเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะเคยมีรายได้ทุกวัน จากต้นยางอายุร่วม 10 ปี แต่ถูกจนท.ป่าไม้ตัดเหี้ยน
นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยว่า สวนยางพาราที่กำลัดตัดโค่น เดิมเป็นของชาวบ้าน แต่วันนี้เปลี่ยนมือเป็นของนายทุน ซึ่ง จนท.ป่าไม้เข้าตรวจยึดและจับกุม แต่ไม่มีผู้ต้องหา หรือใครแสดงตัว เนื่องจากจนท.ป่าไม้ได้จับกุมนายทุนรายใหญ่ อยู่แปลงข้างเคียงก่อนหน้านี้ ทำให้แปลงตรวจยึด 287 ไร่วันนี้ ไม่มีใครกล้าแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองสวนยางพารา ส่วนกรณีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านตอเรือและชาวบ้านที่มาดูในที่เกิดเหตุ เป็นเหตุเข้าใจผิด เกรงว่า จะตัดโค่นแปลงของชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้คงตัดโค่นสวนยางพาราต่อไปตลอดทั้งวัน ก่อนตัดโค่นจริง ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้ ลักษณะตัด 3 แถว เว้น 2 แถว