คนร้ายอุกอาจขับขี่รถจักรยานยนต์ซีบีอาร์กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจากคอชายวัย 42 ปีเจ้าของร้านเสริมสวยระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับร้าน หลังจากซื้อกับข้าวจากตลาดโคกมะตูม ได้ไปครึ่งเส้นยังโชคยังดี พบสร้อยที่ถูกกระชากตกอยู่พร้อมพระเหลี่ยมทอง
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 พ.ค. 2558 ร.ต.ท.ไพโรจน์ คล้ายสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบนถนนเส้นพระองค์ดำ บริเวณทางออกตลาดโคกมะตูมตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญตัวผู้เสียหายไปให้ปากคำที่โรงพัก
ต่อมา ทราบชื่อผู้เสียหาย คือ นายศุภลักษณ์ วาทะธีระกุล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/27 ถ.พระองค์ดำ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เป็นเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง พร้อมกับให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ตลาดโคกมะตูมเพื่อซื้อกับข้าวเป็นประจำทุกวัน หลังจากเดินเลือกซื้อจนเสร็จสิ้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามทางเพื่อกลับบ้านพัก ระหว่างที่เลี้ยวโค้งออกมาจากตลาดได้เพียง 20 เมตร ก็มีคนร้ายเป็นชายใส่ชุดคลุมสีดำ สวมหมวกกันน็อคสีดำปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้บิดเร่งเครื่องแซงขึ้นมาแล้วใช้มือซ้ายกระตุกสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระพุทธชินราช รุ่นจักรพรรดิ์ ปี 2515 เลี่ยมทอง ติดมือไปด้วย
ซึ่งตนก็ได้ขี่รถเร่งติดตามไปแต่ไม่ทัน ซึ่งคนร้ายขี่รถหลบหนีหายเข้าไปทางซอยอู่ทอง จากนั้นตนจึงมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมจราจรแยกสุเหร่า ก่อนจะขี่รถย้อนมาดูร่องรอยของคนร้าย แต่ด้วยความโชคดีก็มาพบเห็นว่าสร้อยคอทองคำของตนเองขาดตกอยู่ที่พื้นถนน เหลือเพียงครึ่งเส้นเท่านั้น ใกล้กันยังพบพระพุทธชินราชเลี่ยมทองตกอยู่อีก สภาพกรอบพระแตกเสียหาย คาดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้สร้อยคอทองคำไปแค่ครึ่งเส้นเช่นกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเห็นสร้อยคอทองคำในคอผู้เสียหายตั้งแต่อยู่ในตลาดโคกมะตูม จึงแอบขี่รถสะกดรอยตามมา เมื่อได้จังหวะจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียง เพื่อใช้ตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี พร้อมรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายรายนี้ และเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.