คู่หูชายหนุ่มพเนจรชาวสุโขทัย-นครสวรรค์ พร้อมครอบครัวตระเวนไปเรื่อยทั่วไทย ด้วยรถจยย.ติดพ่วงข้าง เก็บของเก่า ของรีไซเคิลขาย ชอบใช้ชีวิตอิสระค่ำไหนนอนนั่น นานครั้งจะแวะกลับบ้านเกิด ล่าสุดผ่านมาพิษณุโลกนอนพักสถานีรถไฟ จะมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน
วันที่ 27 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวได้พบชายหนุ่มพเนจร ผู้ชื่นชอบใช้ชีวิตอิสระ ค่ำไหนนอนนั่น ใช้รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง บรรทุกสัมภาระส่วนตัว ตระเวนเก็บของเก่าตามข้างขายแวะขายไปเรื่อย โดยวันนี้พบเห็นที่ข้างปั้มน้ำมันปตท.ถนนพิษณุโลก-บึงพระ ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงสอบถามที่มาที่ไป พบรถจักรยานยนต์แบบติดพ่วงข้าง ที่มีสมาชิกร่วมเดินมาด้วย 4 ชีวิต คือนายบุญธรรม ปัจจัยยา อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย นางอ้อยใจ มณีรัตน์ ชาวจ.กำแพงเพชร ภรรยาของนายบุญธรรม ดช.บิว ปัจจัยยา บุตรของนายบุญธรรม และนายสุภาพ วัฒนา อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาอยู่อ.เมือง จ.นครสวรรค์สอบถามนายบุญธรรม ปัจจัยยา ทราบว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้เดินทางโดยรถคู่ชีพมาถึงจ.พิษณุโลก และได้ไปพักอาศัยอยู่ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก เช้าวันนี้ก็ออกตระเวนออกเก็บของเก่าจำพวกขวดพลาสติก เศษเหล็ก เพื่อรวบรวมไว้ขายร้านขายของเก่า โดยบรรทุกสัมภาระทั้งหมดไว้บนพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ ที่มีนางอ้อยใจ และดช.บิว นั่งอยู่เป็นรถพ่วง พร้อมด้วยเจ้ามอม ลูกสุนัขที่เก็บมาเลี้ยง นายบุญธรรม จะทำหน้าที่ขับรถตระเวนไปตามถนนสายต่าง ๆ โดยให้นายสุภาพ ถือกระสอบเดินตามริมถนน คอยเก็บของเก่าที่เป็นขยะรีไซเคิ่ลได้เก็บใส่ถุง และจะตระเวนไปเรื่อย ๆ จนได้ของมากพอ ก็จะนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินวันละ 200-300 บาทนายบุญธรรม เปิดเผยว่า แต่เดิมตนและนายสุภาพ เพื่อนต่างวัย เคยทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บของเก่าขาย ที่พัทยา จ.ชลบุรี และคบหาเป็นเพื่อนกันเรื่อยมา ช่วงปี 2538 เริ่มออกตระเวนเดินเก็บของเก่าไปเรื่อย ๆ ตามถนนต่าง ๆ ในหลายจังหวัด เพราะชอบใช้ชีวิตอิสระ สบายดี ไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ จากนั้น ก็ค่อย ๆ เก็บเงิน กระทั่งซื้อรถจักรยานยนต์จากร้านของเก่าได้ จึงต่อรถพ่วง และเริ่มใช้ชีวิตพเนจรออกสัญจรไปทั่วประเทศไทย โดยไม่มีจุดหมายใด ๆ ที่ผ่านมาหลายปี ได้ไปมาแล้วทุกภาค ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ เมื่อถึงเวลาเย็น ก็จะไปขอพักตามที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น สถานีรถไฟ ปั้มน้ำมัน โดยต้องเข้าไปขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อน ถ้าอนุญาตก็จะพักค้างคืน เลือกดูที่มีห้องน้ำให้อาบ มีไฟแสงสว่าง เพื่อความปลอดภัย เช้ามาก็ออกเดินทางเก็บของเก่าขายต่อ ได้เงินมาก็นำมาซื้อกับข้าว ซื้อสำเร็จรูปบ้าง และซื้อมาปรุงอาหารทำกันเองบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่มีบ้านหรือ แล้วทำไมไม่กลับบ้าน ทั้งนายบุญธรรมและนายสุภาพ ตอบว่า บ้านก็มีตามภูมิลำเนา นาน ๆ ก็จะแวะพักกลับไปที่บ้านครั้งหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ของชีวิตจะเดินทางไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดหมายอะไร
ส่วนทางด้านครอบครัว ที่มีน้องบิว ปัจจัยยา วัย 8 ขวบ เดินทางสัญจรไปด้วยนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ไม่ได้เข้าโรงเรียนหรืออย่างไร นายบุญธรรมตอบว่า ได้เข้าโรงเรียนแล้วที่อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ช่วงเปิดเทอมก็จะนำไปส่งที่โรงเรียน และนายบุญธรรมก็จะดูแลน้องบิวเอง ไม่ได้นำไปให้แม่ที่อ.คีรีมาศเลี้ยงให้
ซึ่งจากการสังเกตของผู้สื่อข่าว น้องบิวก็มีท่าทางร่าเริงสมกับวัยเด็กดี แต่อาจจะขาดโอกาสในการเรียนหนังสือ
ขณะที่เป้าหมายต่อไป นายบุญธรรม ตอบว่า ไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดหมาย ส่วนใหญ่ก็จะไป ๆ มา ๆ จะแวะเวียนไปพัทยามากหน่อย ใช้ชีวิตอย่างนี้สบายใจดี โดยวันนี้สอบถามแล้วทราบว่า หลังจากตระเวนเก็บของเก่าขายแล้ว ก็จะมุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพ ผ่านสี่แยกดินโดจีน มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน
…………………………………………………………………………………………………………………..