พลิกผืนนาเป็นสวนดอกมะลิหลังข้าวราคาตกต่อเนื่อง

58788เกษตรกร ชาว ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปลี่ยนแปลงนาข้าว เป็นสวนดอกมะลิ หลังราคาข้าวตก ประกาศเลิกทำนา เก็บดอกมะลิขาย ได้กิโลกรัมละ 200 บาท เตรียมรับทรัพย์ช่วงวันแม่ ที่ราคาช่วงตลาดต้องการสูงพุ่งถึงกิโลกรัมละ 1,600 บาท58783

หลังราคาข้าวตกต่ำ  ส่งผลให้ชาวนาต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต หลายรายต้องเลิกทำนาข้าวเพราะทำไปไม่คุ้มทุน  เช่นเดียวกับ นายธวัช  รังท้วม  อายุ  50  ปี  อยู่บ้านเลขที่ 47/2  หมู่ 1  ต.ศรีภิรมย์  อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก  ที่ได้ทำการเปลี่ยนนาข้าว  มาปลูกดอกมะลิ  เก็บดอกขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ  โดยนายธวัช เปิดเผยว่า ตนเองได้เปลี่ยนนาข้าวจำนวนกว่า 20 ไร่ มาปลูกดอกมะลิ  หลังจากได้รับคำแนะนำ จากชมรมผู้ปลูกดอกมะลิ  ว่าสามารถมีรายได้ดีกว่าการปลูกข้าว  ลงทุนซื้อพันธุ์มะลิมาจากนครสวรรค์  ในราคาต้นละ  6  บาท  ทยอยปลูกในแปลงนาข้าว ตั้งแต่  กลางปี  2557  จนถึงขณะนี้เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน  ตนเองก็เปลี่ยนนาข้าวที่มีอยู่ทั้งหมด  มาปลูกดอกมะลิแทน 58781

58786ทั้งนี้ ดอกมะลิ เป็นพืชทนแล้ง  ต้นทุนการเพาะปลูก  ค่าปุ๋ย ค่ายา  ใช้น้อยกว่าการทำนาข้าวถึง 1 ใน 4  ลงทุนปลูกเพียงครั้งเดียวสามารถเก็บดอกขายได้ถึง  15 ปี  ต่อต้น   การดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก  ปลูกเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถเก็บดอกขายได้  โดยในช่วงเวลาปกติ  ราคาดอกมะละจะขายได้ที่กิโลกรัมละ  200  บาท  แต่หากเป็นช่วงวันแม่  ราคาดอกมะลิจะพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 1,600 บาท   อีกทั้งดอกมะลิยังเก็บขายได้ทุกวัน   วันละ 8-10 กิโลกรัม มีคนมารับซื้อถึงที่ไม่ต้องเร่ขาย และไม่ถูกกดราคา  ทำให้ตนเองมีรายได้เลี้ยงครอบครัว วันละ  1,000 – 2,000 บาท  ซึ่งนับว่าเป็นรายได้ที่ดีกว่าการทำนาข้าว  และหากท่านใดสนใจอยากจะปลูกดอกมะลิเพื่อจำหน่าย  สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ นายธวัช  รังท้วม  หมายเลขโทรศัพท์  080-049 2378

แสดงความคิดเห็น