ป่าไม้พิษณุโลกพร้อมดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ ตัดต้นยางพาราอีกพันไร่พร้อมกันทั่วประเทศ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 เล็งยึดสวนยางรายเดียว 3 พันไร่ ที่ อ.นครไทย ขณะที่เดียวกันเปิดโครงการฝึกอบรมให้ เยาวชนรักษ์ป่า ที่ สวนป่าเขากระยาง
วันนี้ 26 พฤษภาคม 2558 นายชาติชาย สงวนพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดโครงการฝึกอบรมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ โดยมีนักเรียนจากบ้านน้ำพรม อ.วังทอง และโรงเรียนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 2 กว่า 100 คนในพื้นที่ ต.แก่งโสภา เข้าร่วมอบรม โดยมีนายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกให้การต้อนรับ พร้อมกับร่วมกันปลูกต้นไม้ ณ.สวนป่าเขากระยาง ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
ต่อมา นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ระดมหัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าในพื้นที่พิษณุโลกประชุมเพื่อเตรียมงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดีเดย์ตัดต้นยางพาราทั่วประเทศ พร้อมกันวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้ต้องการให้เยาวชนรู้จักอนุรักษ์ต้นไม้ธรรมชาติ ต้องปลูกฝังจิตสำนึกเยาวชนให้มีความเข้าใจ หวงแหน และตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างถูกวิธี เพื่อนำไปขยายผลไปสู่โรงเรียน ครอบครัวและชุมชน
ส่วนดีเดย์ตัดสวนยางพาราทั่วประเทศ 1 ก.ค.นี้ มีพื้นที่ถูกตรวจยึดและจับกุมแล้ว ซึ่งเป็นของนายทุน จะตัดโค่นทิ้งจำนวน 287 ไร่ ที่ หมู่ 13 บ้านตอเรือ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พร้อมกับเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกและแม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมดีเดย์ตัดต้นยางในครั้งนี้ด้วย โดยจะทำการตัด 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ ลักษณะตัด 3 แถวเว้น 1 แถว
ส่วนต้นยางพาราที่โค่นทิ้ง หากมีหน่วยงานใดต้องการใช้เป็นไม้ซุงหรือไม้แบบ สามารถทำหนังสือเพื่อรอการอนุมัติให้ฟรีต่อไป
นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนัก 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยอีกว่า หลังจากดีเดย์ 1 กค.ตัดยาง 287 ไร่แล้ว จะนำกำลังป่าไม้ไปตัดโค่นต้นยางพาราที่จับกุมและตรวจยึดอีก บริเวณเขาเรดาร์ 8 แปลง เนื้อที่กว่า 600 ไร่ นอกจากนี้ทราบว่า มีนายทุนภาคใต้ปลูกต้นยางพารา เป็นเจ้าของรายใหญ่รายเดียว เนื้อที่ประมาณ 3 พันไร่ ที่ อ.นครไทย กำลังตรวจยึดสวนยางเป็นคิวต่อไป ตามยุทธการทวงคืนผืนป่า”แควน้อยยั่งยืน ทวงคืน 2 หมื่นไร่”