ทวงถามความคืบหน้ายิงแกนนำนักอนุรักษ์เมื่อ 14 ปีที่แล้ว

56223เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู อ.เนินมะปราง  จ.พิษณุโลก รวมตัวกันทวงถามความคืบหน้าของการทำงานของเจ้าหน้าที่ในคดีคนร้ายยิงนายพิทักษ์ โตนวุธ แกนนำนักอนุรักษ์ต่อต้านโรงโม่หิน เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 ในการทำโรงโม่หิน และคัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 18 พ.ค.2558  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู นำโดยนายโม  คำคูน ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้รวมตัวทวงถามกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ถึงความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนร้ายยิงนายพิทักษ์  โตนวุธ แกนนำเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 หรือ 14 ปีที่ผ่านมา แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทำให้ทางแกนนำมาทวงถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและจังหวัดพิษณุโลกเป็นประจำทุกปีในวันครบรอบวันสังหารนายพิทักษ์  โตนวุธ และปีนี้ ได้นำดญ.หงษ์พิชฌา  โตนวุธ อายุ 14 ปี บุตรสาวของนายพิทักษ์  โตนวุธมาร่วมติดตามความคืบหน้าคดีด้วย   56222

พร้อมทั้งเรียกร้องต่อหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมผลักดันในการแก้ไขปัญหา คือ ให้ที่ดินวังทอง ยกเลิกการขอเอกสารสิทธิ์ หรือ ส.ค. 1 ของผู้ประกอบการในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ชมพู เพราะจะทำให้พื้นที่แห่งนั้นไปขอสัมปทานระเบิดและย่อยหิน ซึ่งก็คือโรงโม่หินแบบเดิมๆ อีก  พร้อมทั้งขอให้ยุติและยกเลิกโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ เพราะจะทำให้ส่งผลระทบต่อระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ   , เร่งดำเนินการสร้างความเข้าใจและผลักดันให้เกิดพื้นที่คุ้มครองทางสิ่งแวดล้อม ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. 2535 โดยมีชุมชนที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้กำหนดและมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่ และ ขอให้มีการขยายเขตการไฟฟ้าไปสู่บ้านชมพู หมู่ 3 และบ้านร่วมเกล้า หมู่ 11 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  โดยในการเรียกร้องดังกล่าวมีนายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าว56221

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินมะปราง ได้กล่าวความคืบหน้าของคดียิงนายพิทักษ์ โตนวุธ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งเฉยในคดีดังกล่าว คนร้าย ก็ได้ออกหมายจับแล้ว คือนายสุริยะ  ขุนอุดร หรือ 1 ซึ่งคนร้ายดังกล่าว ได้หลบหนี แบบไม่พบความเคลื่อนไหว หรือ ทำธุรกรรม ต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแส ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ ซึ่งจะมีรางวัลนำจับ 50,000 บาท เป็น 1 ใน 15 มือปืน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบัญชีติดตามตัว ขณะที่ข้องเรียกร้องเรื่องอื่น โดยเฉพาะขอให้ยุติและยกเลิกโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู นั้น นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว ยังไม่มีโครงการจะก่อสร้างแต่อย่างใด เพียงมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง  ซึ่งโครงการนี้จะเกิดขึ้นก็ต้องอยู่รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ และได้ยุติไปพร้อมกับโครงการบริหารจัดการน้ำ 300,000 ล้านบาทของรัฐบาลชุดที่แล้ว ขณะที่การขอเอกสารสิทธิ์สค.1 ของโรงโม่หินในพื้นที่นั้น จนท.ที่ดินวังทองแจงว่ามีการยื่นเรื่องแต่ไม่สามารถดำเนินการออกได้ ขณะที่การขอขยายเขตไฟฟ้าเข้าไปสู่บ้านวังแดง ม.3 และบ้านร่มเกล่า ม.11 ต.ชมพูนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน56220

หลังจากทางแกนนำเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู  ได้ฟังคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่แล้ว ก็แยกย้ายเดินทางกลับในที่สุด พร้อมทั้งกล่าวว่าหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้าย ยิงนายพิทักษ์  โตนวุธ ได้ก็จะมาทวงถามความคืบหน้าของคดีเช่นนี้เป็นประจำทุกปี

อนึ่งเหตุการณ์ นายพิทักษ์ โตนวุธ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเสียชีวิตอยู่ริมทางเข้าหมู่บ้านต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก  เมื่อบ่ายวันที่17 พฤษภาคม 2544 ระหว่างเดินทางกลับจากการประชุมพิจารณาเรื่องโรงโม่หินที่ อ.เนินมะปรางโดยยึดมั่นแนวทางปกป้องการรุกคืบของสัมปทานหินที่อยู่ติดเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กระทั่งต่อมาได้มีการยกเลิกสัมปทานโรงโม่หินในพื้นที่ตำบลชมพู ขณะที่เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำคลองชมพูก็จะนัดมาทวงถามความคืบหน้าจากผวจ.พิษณุโลกทุกปีที่ศาลากลางจังหวัดในวันครบรอบการถูกยิง ขณะที่ปีนี้ ไม่ได้นำมวลชนมามากเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา มีแต่ตัวแทนเข้าพบกับส่วนราชการ

////////////

แสดงความคิดเห็น