เปิดใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน

1431920792282เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ที่บริเวณโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ได้มีพิธีเปิดโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน โดยมีนายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นประธานในพิธีเปิดการขนานเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนเครื่องที่ 2 สำหรับการขนาน เครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างเป็นทางการ

1431920736364

ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกฟผได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนซึ่งเป็น 1 ใน 6 แห่งของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานระยะที่ 1 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน

 

โครงการนี้นับเป็นโครงการสุดท้ายที่กำลังจะเสร็จมีขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 15 เมกะวัตต์จำนวน 2 เครื่องรวมกำลังผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์สามารถผลิตพลังงานได้ปีละ 146.6  ล้านหน่วย

1431920785990

ซึ่งงานด้านติดตั้งและทดสอบอุปกรณ์ดำเนินการโดยผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. ได้เริ่มงานติดตั้งควบคู่ไปพร้อมกับงานโยธา ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 ส่วนงานติดตั้งอุปกรณ์เครื่องที่ 2 ดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้ดำเนินการทดสอบเพื่อตรวจรับงานในขั้นตอน dry test อุปกรณ์เครื่องที่ 2 แล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2558 และทำการ Initial Run (kick-Off) เครื่องที่ 2 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 รวมระยะเวลาตั้งแต่เริ่มสัญญาแรกจนถึงปัจจุบันประมาณ 4 ปี 10 เดือน 1431920769049

 

เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อยอำเภอวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก มีลักษณะเป็นเขื่อนหินถมดาด หน้าด้วยคอนกรีต ความสูง 75 เมตร ความยาว 681 เมตร อาคารโรงไฟฟ้าที่กฟผ. จะใช้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของเขื่อนแควน้อย บริเวณท้ายน้ำของ  river outlet

1431920755116

สำหรับกระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ จะนำน้ำที่เขื่อน ต้องระบายลงทางท้ายน้ำอยู่แล้ว มาผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้าก่อนระบายลงท้ายน้ำตามเดิม น้ำไม่ได้สูญหายไปไหนไม่มีการปนเปื้อน อุณหภูมิของน้ำไม่เปลี่ยนแปลง น้ำถูกใช้ประโยชน์ให้มีคุณค่ามากขึ้น โดยไม่กระทบกับการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรกรรมตามที่กรมชลประทานวางแผนไว้เดิม

 

โดยมุ่งหวังเพิ่มความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าในเขตอำเภอและเขตใกล้เคียงโครงการ /ประชาชนในเขตพื้นที่โครงการยังคงได้รับน้ำเพื่อการชลประทานในปริมาณเท่าเดิม / องค์การบริหารท้องถิ่นจะมีรายได้จากภาษีอากรสามารถนำไปพัฒนาท้องถิ่น / เกิดการจ้างแรงงานในท้องถิ่นในช่วงก่อสร้างโครงการ สามารถผลิตไฟฟ้าเสริมเข้าสู่ระบบได้ประมาณ 385 ล้านหน่วยต่อปี / ประหยัดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพงจากต่างประเทศได้ถึง 95 ล้านลิตรต่อปี / ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้โลกร้อนได้ 233,043 ตันต่อปี เป็นการช่วยอนุรักษ์โลก และสมทบเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นในเขตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า 2 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อนำไปใช้พัฒนาอาชีพ การศึกษา ศาสนา กีฬาสาธารณสุข และอื่นๆ แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า

 

ด้วยความร่วมมืออันดีอย่างต่อเนื่องระหว่างกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะนำมาซึ่งความผาสุกและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของประชาชนชาวไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป

 

 

แสดงความคิดเห็น