กรรมการวัดและชาวบ้านวิ่งไล่จับคู่ผัวเมีย ขโมยเงินในรูปปั้นสามเณร ในโบสถ์วัดพระขาวชัยสิทธิ์ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าอาวาสและกรรมการกำลังนั่งดูทีวีในกุฏิ มองมอนิเตอร์ภาพกล้องวงจรปิดเห็นทั้งคู่ขี่รถเดินเข้ามาในโบสถ์ ฝ่ายหญิงทำทีไหว้พระ ฝ่ายชายลงมือใช้ไขควงงัดล้วงเงินไปได้1,300 บาท ตามมาปลุกปล้ำในโบสถ์วิ่งหนีไปในหมู่บ้านแต่ก็จนมุมในที่สุด
เวลา 18.00 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ที่อุโบสถวัดพระขาวชัยสิทธิ์ ม.3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ.ต.อ.ประเสริฐ กองเกียรติเจริญ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลกควบคุมตัวคู่สามีภรรยาก่อเหตุลักทรัพย์เงินบริจาคจากรูปปั้นสามเณร ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพระประธานภายในโบสถ์มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากลงมือก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. กรรมการวัดและชาวบ้านมาพบเห็นขณะลงมือก่อเหตุ ได้พยายามจับกุมแต่ทั้งสองวิ่งหลบหนีไป แต่ก็ถูกตามจับมาได้ในที่สุด
ผู้ต้องหาทั้งสองรายรับว่าเป็นสามีภรรยากัน ชื่อนายมารุต ช้างดี อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และนส.ดวงดาว จารีวรรณ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ทั้งตู่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าอุโบสถวัดพระขาวชัยสิทธิ์ จากนั้น ทั้งคู่ก็เดินเข้าไปภายในโบสถ์ นส.ดวงดาว ทำทีไหว้พระประธาน ขณะที่นายมารุต ได้เดินเข้าไปด้านหลังรูปปั้นสามเณร ที่วัดตั้งไว้เป็นเสมือนตู้รับบริจาคจากประชาชน ใช้ไขควงงัดกุญแจออกและล้วงเอาแต่ธนบัตรไป ขณะนั้น มีกรรมการวัดเข้ามาพบเห็นและพยายามจับกุม ได้ปลุกปล้ำกันภายในโบสถ์ ทั้งคู่จึงวิ่งหนีออกจากวัดไปเข้าไปทางหมู่บ้าน โดยที่ไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์ไปได้ เนื่องจากกรรมการวัดแย่งกุญแจไปได้ ระหว่างที่วิ่งหนี ได้หลบไปตามบ้านผู้คนและลัดเลาะไปตามทุ่งนา กระทั่งไปจนมุมที่บ่อดิน ห่างจากตัววัดประมาณ 2 กิโลเมตร ชาวบ้านจึงจับกุมและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปดำเนินคดี
นายสมจิตร มาสะธรรม กรรมการวัดพระขาวชัยสิทธิ์ และเป็นอส.ตร.บ้านกร่าง เปิดเผยว่า ในโบสถ์และตู้บริจาคตามจุดต่าง ๆ ของวัดโดนขโมยบ่อยครั้ง จึงมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่โบสถ์ วันนี้ ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ตนนั่งอยู่ในกุฏิพระครูพิทักษ์ชัยสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระขาวชัยสิทธิ์ เจ้าคณะตำบลบ้านกร่าง ระหว่างที่ตนและเจ้าอาวาสกำลังนั่งชมโทรทัศน์อยู่นั้น สังเกตเห็นในจอมอนิเตอร์ของกล้องวงจรปิด เห็นคู่ชาย-หญิง เข้าไปภายในโบสถ์ และสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ฝ่ายหญิงกราบพระ แต่ฝ่ายชายกลับตรงไปที่ด้านหลังรูปปั้มสามเณร จึงรู้ว่าเป็นขโมยแน่ ตนจึงรีบวิ่งจากกุฏิมาที่โบสถ์ และพบผู้ชายกำลังลงมือขโมยเงินในรูปปั้นสามเณรอยู่พอดี จึงเข้าไปพยายามจับกุม แต่เกิดการต่อสู้กัน จังหวะนั้นตนคว้ากุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งหลบหนีไปหลังวัดออกไปทางหมู่บ้าน จึงระดมชาวบ้านช่วยกันค้นหาและไปพบตัวที่สระน้ำ ห้างจากวัดประมาณ 2 กิโลเมตร
…………………………………………………………………………………………………………………………………….