ภาคประชาชนพิษณุโลกตามติดกรมศิลปากรเตรียมยุบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯคัดค้านการยุบเป็นห่วงโบราณวัตถุที่ขุดค้นในพิษณุโลกต้องไปเก็บรักษาไว้ที่สุโขทัย ถกร่วมภาคราชการแนวโน้มยุบพิพิธภัณฑ์แน่นอนเป็นนโยบายการบริหารงานของกรมศิลปากร พร้อมมอบโบราณวัตถุของวัด 1,118 ชิ้นให้วัดใหญ่ดูแลจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใหม่ที่กำลังสร้าง ส่วนที่เหลือ 379 ชิ้นนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหงและพร้อมให้วัดใหญ่ทำเรื่องจัดยืมมาได้
วันที่ 8 พฤษภาคม 2558 จากกระแสการออกมาต่อต้าน คัดค้านการยุบพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช ของกรมศิลกากร ที่อยู่ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยภาคปผระชาชนชาวจ.พิษณุโลก ด้วยเหรงว่า โบราณวัตถ่ในพิพิธภัณฑ์ 1,000 กว่าชิ้น จะต้องถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย เวลา 11.00 น.ของวันนี้ ที่ศาลาประชาคมจังหวัดพิษณุโลก ภาคประชาชนชาวพิษณุโลกนำโดยนางเน่งน้อย อัศวกิตติกร พร้อมชาวพิษณุโลกอีกประมาณ 50 คน ได้มาพบกับส่วนราชที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านการยุบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช โดยมีการยื่นหนังสือคัดค้านของภาคประชาชนต่อนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิษณุโลกเพื่อส่งต่อไปยังอธิบดีกรมศิลปากร และในวันนี้ได้มีการสอบถามความชัดเจนจากภาคราชการ ที่มีตัวแทนมาชี้แจงข้อข้องใจให้ชาวพิษณุโลก ประกอบด้วยนายอมร กิตติกวางทอง วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก นางสาวอภิรดี พิชิตวิทยา ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง สำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย
นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ตัวแทนภาคประชาชนชาวพิษณุโลกได้ชี้แจงและมอบจดหมายเปิดผนึกต่อผวจ.พิษณุโลก ใจความว่า ตามที่กรมศิลปากร จะมีการยุบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ด้วยมีปัญหาการบำรุงรักษาและขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช เป็น 1 ใน 9 แห่งที่จะถูกยุบ และจะนำโบราณวัตถุไปเก็บรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ขณะนี้ได้ดำเนินการแยกบัญชีโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราชไว้จำนวน 1,497 ชิ้น ซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่รวมรวมได้ในจังหวัดพิษณุโลก เครือข่ายประชาชนคนพิษณุโลก ขอคัดค้านการขนย้ายโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติของชาวพิษณุโลก ขอให้มีการยกระดับพัฒนาพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในจังหวัดพิษณุโลกให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมืองที่มีวิถีชีวิตวัฒนธรรม สร้างฐานความรู้ทางประวัติศาสตร์ของพิษณุโลกและขอให้ภาคประชาชนเข้าไปมีบทบาทมรส่วนร่วมตัดสินใจกับกรมศิลปากร
นายอมร กิตติกวางทอง วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก ชี้แจงว่าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธชินราชมีโอกาสยุบแน่ เพราะเป็นนโยบายของกรมศิลปากรในการบริหารงานบุคคล เป็นการยุบหน่วยงาน แต่จากการติดตามและสอบถามข้อมูลทราบว่า โบราณวัตถุที่เคยจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราชนั้น 1,000 กว่าชิ้นเป็นของวัดใหญ่ หรือ คิดเป็น 90 % ในส่วนนี้กรมศิลปากรมีแนวคิดตรงกันกับวัดใหญ่ จะมอบโบราณวัตถุ 1,000 กว่าชิ้นให้วัดใหญ่เป็นผู้ดูแล และขณะนี้ทางวัดได้งบงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างกลุ่มที่ 1 วงเงิน 17 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารศิลปวัฒนธรรรม บริเวณด้านทิศเหนือของวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช และกำลังดำเนินการก่อสร้าง อาคารนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของวัดใหญ่ ที่จะนำโบราณวัตถุมาจัดแสดงให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชม ส่วนโบราณวัตถุอีก 10 % หรือ 300 กว่าชิ้น เป็นสมบัติของชาติ ที่กรมศิลปากรขุดค้นพบตามโบรานสถานต่าง ๆ อาทิ วัดตาปะขาวหาย วัดอรัญญิก วัดจุฬามณี จะนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย
นางสาวอภิรดี พิชิตวิทยา ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัยเปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้ให้สำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย ที่ดูและโบราณสถานและโบราณวัตถุในเขต 6 จังหวัด (สุโขทัย พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร ) มาสำรวจทำบัญชีโบราณสถานของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธชินราช พบว่ามีจำนวน 1,497 ชิ้น โดยแยกโบราณวัตถุเป็น 2 ส่วน ได้แก่โบราณวัตถุที่เป็นของวัด ประกอบด้วยของวัดใหญ่ บุคคลมอบให้วัดใหญ่ และไม่ทราบที่มา มีทั้งพระพุทธรูป เครื่องถ้วยชามสังคโลก พุทธบูชา จำนวน 1,118 ชิ้น ในส่วนนี้ กรมศิลปากรจะมอบให้วัดใหญ่เพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑแห่งใหม่ที่กำลังดำเนินการจัดสร้าง อีกส่วนหนึ่งเป็นโบราณวัตถุที่กรมศิลากรจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย จำนวน 379 ชิ้น ในส่วนนี้เป็นโบราณวัตถุที่ขุดพบจากการขุดงานก่อสร้างต่าง ๆ หรือพบตามวัดต่าง ๆ อาทิ วัดอรัญญิก วัดศรีสุคน ที่ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูป ส่วนนี้เรียกว่า เป็นสมบัติของชาติ เป็นโบราณวัตถุที่พบตามพรบ.โบราณสถานโบราณวัตถุ กรมศิลปากรจะต้องเป็นผู้ดูแลรักษา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโบราณวัตถุ 379 ชิ้น ที่กรมศิลปากรจะนำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ถ้าหากชาวพิษณุโลก ต้องการนำโบราณวัตถุเหล่านี้ที่ขุดพบในพิษณุโลก มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่วัดใหญ่กำลังดำเนินการก่อสร้างก็สามารถทำได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอน ทางวัดใหญ่ต้องทำหนังสือขออนุญาตยืมโบราณวัตถุจากกรมศิลปากร กรมศิลปากรก็จะตั้งคณะกรรมการประเมินราคาและทำบัญชีการส่งมอบ เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบหากเกิดกรณีเสียหายหรือสูญหาย เนื่องจากเป็นโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติของชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชี้แจงของภาคราชการ ภาคประชาชนได้ตั้งคำถามและตั้งข้อสังเกตหลายประการ อาทิ ทำไมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในพิษณุโลกส่วนหนึ่งจึงต้องนำไปเก็บรักษาไว้ที่จ.สุโขทัย ในเมื่อขุดค้นพบในพิษณุโลกทำไมต้องไปทำเรื่องยืมกลับมา หรือ พิพิธภัณฑแห่งใหม่ที่วัดใหญ่จัดสร้างขึ้นมาจะใช้คำต่อท้ายว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้หรือใหม่ ทางผู้แทนจากสำนักศิลปากรที่ 6 ก็ได้ชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นไปตามกฎหมาย ที่สมบัติของชาติกรมศิลปากรจะต้องดูแล และการทำเรื่องยืมมาก็เพื่อให้มีผู้ที่รับผิดชอบ ส่วนคำว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินั้น เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่กรมศิลปากรดูแล โดยหลังจากใช้เวลาชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมง และมอบหนังสือต่อผวจ.พิษณุโลกแล้ว ภาคประชาชนได้แยกย้ายกลับ