วันนี้ ( 4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอาจารย์วัชรา แก้วมหานิล ภาควิชาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก คณะสหเวชศาสตร์ ม.นเรศวร ได้พัฒนานวัตกรรมเครื่องตรวจสมองขาดเลือด ลดความเสี่ยงพิการและเสียชีวิต (Early Detected Ischemic Strork Device) ตรวจระดับความอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็ว มีประโยชน์อย่างมากต่อการป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันและแตกได้ทันที โดยได้ใช้เวลาพัฒนามานานกว่า 5 ปีเต็ม ล่าสุด ได้มีการพัฒนาเครื่องตรวจสมองขาดเลือด ดังกล่าว เป็น เวอร์ชั่น 5 สามารถตรวจความเสี่ยงโรคหลอดเลือดดำอุดตัน ที่บริเวณขา ทั้ง 2 ข้าง ผู้ป่วยสามารถทราบความเสี่ยงของการเกิดโรคเลือดไปหล่อเลี้ยงขา ไม่ทัน จนเสี่ยงต่อการถูกตัดขา และเสียชีวิตได้อีก จนได้รับรางวัลถึง 2 รางวัลได้แก่ เหรียญทอง ทางด้านการแพทย์ และ special prize จากประเทศเกาหลี ในงานจัดแสดงนวัตกรรมนานาชาติเจนีวา ครั้งที่ 43 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีกว่า 50 ประเทศทั่วโลก 1,000 ผลงานเข้าร่วมประกวด ในวันที่ 15-19 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา
อาจารย์วัชรา แก้วมหานิล ภาควิชาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก คณะสหเวชศาสตร์ ม.นเรศวร จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ปัจจุบันโรคหลอดเลือดดำอุดตันเป็นปัญหาที่ถูกมองข้ามแต่มีความสำคัญและมีอันตรายอย่างมาก จากรายงานทั่วโลกพบว่ามีพบอุบัติการณ์โรคนี้มากกว่า 5 แสนคนต่อปี โดยอันตรายของโรคนี้จะทำให้รุนแรงจนถึงขั้นตัดขาและเกิดลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดทำให้ไม่สามารถหายใจได้และตามมาด้วยการเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นการตรวจพบโรคนี้ในระยะก่อนแสดงอาการความรุนแรงของโรคจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้สามารถป้องกันตั้งแต่ลดความเสี่ยงจนถึงขั้นตอนการักษาได้อย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีเครื่องตรวจที่สามารถประเมินโรคหลอดเลือดอุดตันในระยะเริ่มต้นและเข้าถึงประชาชน จึงเป็นที่มาให้เกิดความคิดสร้างเครื่องตรวจความเสี่ยงโรคหลอดดดำอุดตันแบบพกพา เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือตรวจโรคหลอดเลือดดำอุดตันที่มีลักษณะใช้งานง่าย ราคาไม่แพงต้นทุน 6 หมื่นบาทซึ่งมีราคาถูกกว่าเครื่องมาตรฐานที่นำเข้ามามีราคามากถึง 3 ล้านบาท รวมทั้งข้อจำกัดในการใช้งานที่เดิมส่วนใหญ่มีความซับซ้อน ใช้เวลานาน และต้องตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางให้ไม่สามารถให้บริการการตรวจคัดกรองโรคได้อย่างทั่วถึง
อาจารย์วัชรา กล่าวอีกว่า ลักษณะใช้งานง่ายมาก ใช้เวลาตรวจเพียง 1 นาทีเท่านั้นรวมทั้งสิ้น 4 เส้นเลือดดำที่ขาทั้งซ้ายและขวาได้แก่ บริเวณขาหนีบ (common femoral vein) และ หลังเข่า (popliteal vein) ซึ่งเป็นจุดที่พบความผิดปกติบ่อยที่สุด มากไปกว่านั้นเมื่อเครื่องมือที่สร้างขึ้นมีความถูกต้องใกล้เคียงกับเครื่องมาตรฐาน อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียงแค่ 2 กิโลกรัมทำให้พกพาสะดวกใช้งานนอกสถานทีได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ 5 ชั่วโมง จึงทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการบริการผู้ป่วยถึงบ้านในกรณีผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และที่สำคัญสามารถใช้ป้องกันผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดดำอุดตันได้ง่ายได้แก่ ผู้ที่ไม่ค่อยขยับเขยื้อนร่างกาย, โรคอ้วน, หญิงตั้งครรภ์, ผู้สูอายุ รวมทั้งผู้ที่ได้รับยาต้านมะเร็งบางตัวที่ส่งผลต่อหลอดเลือดดำอุดตัน เป็นต้น นอกจากนี้ทางผู้วิจัยยังพัฒนาให้เครื่องมีให้เลือกฟังชั่นใช้งานทั้งแบบการใช้งานอย่างง่ายและอย่างละเอียดซึ่งสะดวกให้ใช้งานตามบ้านและตามโรงพยาบาลอีกด้วย โดยคาดหวังว่าจะลดอันตรายจากโรคหลอดเลือดดำอุดตันได้อย่างเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มเพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุต่อไป
/////////////