หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาภัยแล้งหลังมีสภาพอากาศเหมาะสม พร้อมยิงพลุบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บหลังตรวจพบอยู่ในก้อนเมฆขนาดใหญ่จำนวน 2 ก้อนบนความสูง 22,000 ฟิต เพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และสุโขทัย หลังจากก่อนหน้านี้มีพายุลูกเห็บสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่
วันที่ 27 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่กองบิน 46 นายรังสรรค์ บุศเมือง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องบินซูเปอร์คิงแอร์ 350 แบบไฟฟ้าแรงดัน 28 VDC ที่ติดตั้งพลุบรรจุสารเคมีซิลเวอร์ ไอโอไดด์ จำนวน 120 นัด บริเวณใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และสุโขทัย บนความสูง 22,000 ฟิต หลังจากก่อนหน้านี้มีพายุลูกเห็บสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยคาดว่าการเข้าสลายกลุ่มความชื้น เพื่อไม่ให้ก่อตัวเป็นลูกเห็บ และลดขนาดของลูกเห็บให้ลดลง จะบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชนในภาคเหนือได้มา
นายรังสรรค์ บุศเมือง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก กล่าวว่าเนื่องจากขณะนี้มีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเหนือเหนือ ส่งผลให้สภาพอากาศขณะนี้เหมาะสมกับการทำฝนหลวง จึงเร่งขึ้นปฏิบัติการการทำฝนหลวง โปรยสารทำเมฆอุ่นในระดับ 5 – 6,000 ฟิต และโปรยสารทำเมฆเย็นเพื่อเพิ่มความชื้นและเพิ่มปริมาณฝน พร้อมเครื่องตรวจสภาพอากาศมาติดตามสภาพอากาศเพื่อดูความเหมาะสมในแต่ละวัน
สำหรับพื้นที่ขึ้นทำคือบริเวณพื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่การเกษตรและอ่างเก็บน้ำ และทำในพื้นที่ประสบภัยแล้งซึ่งมีประชาชนร้องขอในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ เนินมะปราง บางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก พื้นที่บางส่วนของจังหวัดพิจิตร ซึ่งอยู่ระหว่างเกษตรกรกำลังเตรียมการเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ทั้งการทำนาข้าว และพืชไร่ จำนวนกว่า 1.8 พันไร่ โดยคาดว่าระดับน้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จะเพิ่มขึ้น และตั้งแต่เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสำหรับช่วยเหลือปัญหาภัยแล้งถึงขณะนี้ ได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงไปแล้วจำนวน 143 เที่ยวบิน
/////////