ลูกชายพ่อเฒ่าจรูญ แซ่บุ้น วัย 72 ปี หนีออกจากบ้านจากกำแพงเพชรมาพบพ่อที่บ้านมิตรไมตรีพิษณุโลก ย้ำไม่มีใครทำร้ายร่างกาย มารับกลับยินดีให้พ่ออาศัยอยู่ด้วย แต่พ่อชอบหนีออกจากบ้านเป็นประจำ จะไปอาศัยกับลูกสาวที่ภาคเหนือ ขณะที่ลูกสาวคนเล็กไม่สะดวกให้พ่อไปอาศัยอยู่ได้ สุดท้ายหัวหน้าบ้านมิตรไมตรีได้แนะนำให้พ่อเฒ่าจรูญไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์จัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ลำปาง เพื่อจะได้มีผู้ดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
วันที่ 23 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงาน ข่าวจากกรณีที่นายจรูญ แซ่บุ้น วัย 72 ปี ชาวอ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่เดินเท้าจาก จ.พิจิตร จะไปหาลูกสาวทางภาคเหนือ แล้วบ้านมิตรไมตรี จ.พิษณุโลกได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้เวลา 13.00 น. นายพีชพงษ์ พิทักษ์ หัวหน้าบ้านมิตรไมตรีจังหวัดพิษณุโลก ได้เชิญลูก ๆ ของ ลุงจรูญ มาสอบถามข้อเท็จจริง และจะได้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเหมาะสมต่อไป
ซึ่งจากการสอบถามได้ความว่า ร่องรอยช้ำ ที่อยู่บนใบหน้าของ พ่อเฒ่าจรูญนั้น หัวหน้าบ้านมิตรไมตรี เปิดเผยว่า ไม่ได้เกิดจากการถูกบุตรทำร้ายแต่อย่างใด เนื่องจาก ลุง จรูญ เล่าว่า ตนเองถูกทำร้ายตอนที่หนีออกมาจากบ้านลูกชายอีกคน ที่ จ.กำแพงเพชร ตอนเวลาตี 2 แล้วไม่เห็นหน้าคนที่มาทำร้ายตน คาดว่าจะเป็นการถูกทำร้ายจากคนอื่น
ด้าน นายวันชัย ดาวันนา อายุ 47 ปี ลูกชายคนโต ของ ลุงจรูญ อยู่บ้านเลขที่ 88 ซ.8 หมู่บ้านเพชรธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ได้เล่าว่า ตนเองและภรรยา ได้พยายามดูแลบิดา คือ ลุงจรูญ เป็นอย่างดี แต่พ่อของตนก็มักจะหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ คาดว่าจะคิดถึงลูกสาวคนเดียว ที่อาศัยอยู่ จ.เชียงราย เพราะพ่อบ่นเสมอว่า อยากจะไปอาศัยอยู่กับลูกสาว สอบถามทราบชื่อคือ นางสาววาสนา แซ่บุ้น อายุ 35 ปี แต่นายวันชัย กล่าวว่า นางสาววาสนา ไม่สามารถรับพ่อไปอยู่ด้วยได้ เหตุผลขอไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ก็ยืนยันว่า ตนเองและลูกคนอื่น ๆ ก็พยายามแล้วที่จะดูแลพ่ออย่างดี ส่วนที่ว่าพ่อยกมรดกให้ ก็ไม่มีมรดกอะไรมาก เพราะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ตนเองกับน้องชาย ทำงานเป็นเพียงผู้รับเหมาก่อสร้าง รับจ้างไปวัน ๆ เท่านั้น เรื่องการดูแลพ่อ ยอมรับว่าไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะพ่ออยู่กับตนเองก็หนีออกจากบ้าน ไปอยู่กับน้องชายคนเล็ก ก็หนีออกจากบ้าน และพ่อของตนก็ไม่ได้เพิ่งหนีแค่ครั้ง สองครั้ง แต่หนีออกมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งตนเองและน้องชายก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งออกตามหา ทั้งแจ้งความ ไม่เคยทอดทิ้ง จนตัวเองไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งจะให้มีคนเฝ้าตลอดเวลา คงเป็นไปไม่ได้
ทั้งนี้ ระหว่างที่ ลูกชาย กำลังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลุงจรูญ ถึงกับน้ำตาไหลพราก จนกระทั่ง นายพีชพงษ์ พิทักษ์ หัวหน้าบ้านมิตรไมตรีจังหวัดพิษณุโลก ต้องเดินเข้าไปปลอบ ลุงจรูญด้วยตนเอง และสุดท้าย หัวหน้าบ้านมิตรไมตรี ได้แนะนำให้ ลุงจรูญ แซ่บุ้น ไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์จัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ลำปาง เพื่อจะได้มีผู้ดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสมต่อไป ซึ่งตัวพ่อเฒ่าจรูญก็เข้าใจดี
………………………………………………………………………………………………………………………………………………