จนท.ป่าไม้ออกลาดตระเวนตรวจป่า เจอมอดไม้กำลังใช้เลื่อยยนต์แปรรูปไม้ชิงชัน บันทึกภาพคนแปรรูปไม้เถื่อนไว้ได้ ผู้ต้องหาวิ่งหนีทิ้งเลื่อยยนต์คากองไม้ชิงชัน คาดเป็นแก๊งมอดไม้ในพื้นที่ ตำรวจน่าจะรู้ตัว กลางป่าลึกบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านซำทองพัฒนา ม.13 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง และเตรียมการเขตอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว
วันที่ 22 เม.ย.2558 นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11(พิษณุโลก) จนท.อช.แก่งเจ็ดแคว, จนท.สายตรวจสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สายที่ 1 พิษณุโลก, หน่วยฯ พล 1 (วังทอง) , หน่วย พล 8 (น้ำยาง) ,นปพ.37 ออกลาดตะเวนผืนป่าในเขตรับผิดชอบ ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์กลางป่าลึกบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านซำทองพัฒนา ม.13 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง และเขตเตรียมการอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว จึงเดินเข้าไปพบชายไทยกำลังใช้เลื่อยแปรรูปไม้
จังหวะนั้น จนท.ป่าไม้คว้ากล้องและเดินเข้าไปบันทึกภาพผู้กระทำความผิด ก่อนจะจับกุม ระหว่างย่างก้าวเข้าไปใกล้ตัวผู้กระทำความผิด ที่กำลังใช้เลื่อยยนต์แปรรูปไม้ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงไหวตัวรีบกระโดนหนีอย่างรวดเร็วและทิ้งเลื่อยไว้กลางป่า จนท.ป่าไม้สามารถบันทึกภาพเพียงด้านหลังเท่านั้น
ตรวจสอบแล้ว พบ ไม้ชิงชังแปรรูป 18 แผ่น/เหลี่ยม คิดเป็นปริมาตร 1.12 ลบ.ม. และไม้ชิงชังท่อน อีก 1 ท่อน ปริมาตร 1.09 ลบ.ม. พบเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่องอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงดำเนินการตรวจยึดไม้และขนย้าย แต่ไม่สามารถนำไม้ไม้ชิงชันบางส่วนจำนวน 1 ท่อน และ 2 เหลี่ยมออกมาได้ จำต้องทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ เนื่องจากไม่มีเส้นทางชักลาก และเขาลาดชันสูง
ทำบันทึกตรวจยึดส่ง พงส.สภ.แก่งโสภา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยให้นายวิชาญ ขันธ์แก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่.8 (น้ำยาง) /หน่วยปฎิบัติที่ 37 กรมป่าไม้ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
นายวิชาญ ขันธ์แก้ว หัวหน้าหน่วยปฎิบัติที่ 37 กรมป่าไม้ กล่าวว่า แก๊งมอดไม้ ไหวตัวทันเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งจริงๆจนท.ป่าไม้ไม่ต้องการกระทำการรุนแรง จึงถ่ายภาพไว้ก่อน หวังว่าจะติดตามตัวภายหลัง เพราะผู้ที่ตัดไม้ น่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะสภาพพื้นที่เป็นหุบเขาสูงชัน คนในพื้นที่เท่านั้นที่ทราบว่า มีไม้ชิงชันเหลืออยู่กลางป่า จากนี้ต่อไป คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี