ป่าไม้ลุยยึดสวนปาล์มอายุ 9 ปี รุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง 35 ไร่ เป็นของนายทุนใต้ ตรวจพิกัดเปรียบเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศปี2545บุกรุกป่าชัดเจน ระหว่างตรวจค้นไม่ได้มีผู้แสดงตนครอบครอง นำคดีแจ้งความสภ.นครไทยสอบสวนหานายทุนผู้บุกรุกมาดำเนินคดี และยังพบลอบตัดไม้อีกเพียบบริเวณพื้นที่ข้างเคียง ที่บ้านโป่งดินดำ หมู่ 26 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย พิษณุโลก
วันที่ 20 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ออกคำสั่งให้ นายสำรวย ชุมบุญ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้สายที่ 1 และนายพงษ์ศักดิ์ ประสมทรัพย์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 14 (น้ำคลาด) สนธิกำลังป่าไม้พื้นที่ข้างเคียง ไปตรวจยึดสวนปาล์มบริเวณบ้านโป่งดินดำ หมู่ 26 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย พิษณุโลก เนื่องจากสืบทราบว่า มีการบุกรุกทำสวนปาล์มแปลงขนาดใหญ่มานาน และคนในพื้นที่ระบุว่า เป็นของนายทุนอดีตนักการเมืองตระกูลดัง แต่คนในพื้นที่ทราบดีว่าเป็นของนายทุนใต้มาซื้อต่อเพื่อทำสวนปาล์มต่อเมื่อ 5 ปีก่อน
โดยรถยนต์ของเจ้าหน้าที่สายตรวจป่าไม้ขับไปตามร่องแปลงสวนปาล์มน้ำมันเป็นแถวๆ อายุประมาณ 9 ปี แต่ไม่พบกับผู้ใดแสดงตัวและยืนยันเป็นเจ้าของ เพียงแต่สอบถามผู้ใหญ่บ้านบ้านโป่งดินดำ ทราบว่า เจ้าของสวนปาล์ม เป็นของหลานนักการเมืองตระกูลดังจากภาคใต้ จับพิกัดวัดได้เนื้อที่ได้ 35 ไร่ และนำไปเทียบกับภาพถ่ายปี 2545 ก็พบว่า เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นสภาพป่าและอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง จึงดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี สภ.นครไทย ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ข้อหาแผ้วถาง และตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติมาตรา 14 ข้อหายึดถือครอบครองป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาต มูลค่าความเสียหายแก่รัฐ 2.4 ล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ ประสมทรัพย์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 14 น้ำคลาด เปิดเผยว่า ระหว่างตรวจยึดในพื้นที่ไม่พบเจ้าของ แต่คนในพื้นที่ทราบดีว่า เป็นของนายทุนใต้ ระบุว่าเป็นหลานของคนตระกูลดัง เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ซื้อสวนปาล์มต่อจากนายทุนคนหนึ่ง วันนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยที่พื้นที่ข้างเคียงโดยรอบ จนท.ป่าไม้ก็ตรวจยึดผืนป่ามาแล้ว
นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยว่า ผู้ใดกระทำความผิด ก็ต้องถูกจับกุม ส่วนที่ระบุว่า คนนามสกุลดังเมื่อผิดก็ต้องจับ เพราะมีการซัดทอด และกำลังให้ตำรวจสภ.นครไทย ออกหมายเรียก ซึ่งพื้นที่สวนปาล์มดังกล่าว นายทุนได้ซื้อต่อมาอีกทอดที่ปลูกไว้เมื่อปี 2552 และเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามถนนของพื้นที่คนตระกูลดัง ยังพบว่า มีไม้มะค่า และไม้กระยาเลยอื่นๆถูกโค่นทิ้งรวม 11 ท่อน ทราบว่า ราษฎรพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเจ้าของ จนท.ป่าไม้จึงดำเนินการตรวจยึดไม้ท่อน และพื้นที่ 5 ไร่เศษๆ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยางเช่นกัน แจ้งความสภ.นครไทย หาผู้กระทำความผิด ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11และ 69 ข้อหาทำไม้ และมีไม้ยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง และตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติมาตรา 14 ข้อหา ทำไม้ กระทำการใดๆเป็นอันเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ